เตรียมแก้กฎหมายคุ้มครองพยานจนจบคดี

กรมคุ้มครองสิทธิฯ 17 พ.ย.- กรมคุ้มครองสิทธิฯ เตรียมแก้กฎหมายคุ้มครองพยาน เริ่มตั้งแต่ในชั้นศาลจนหลังจบคดี


น.ส.ปิติกาญจน์  สิทธิเดช อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เปิดเผยความคืบหน้าการแก้ไขเพิ่มเติมร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและบังคับบุคคลให้สูญหายพ.ศ…ว่า ขณะนี้ มี 5 ประเด็นสำคัญที่ต้องแก้ไข อาทิ  การผลักดันส่งกลับคนต่างด้าวซึ่งที่ผ่านมาไทยยังไม่เคยดำเนินการ  การเตรียมพร้อมตอบสนองต่อภาวะฉุกเฉินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำทรมานและบังคับให้สูญหายเพราะถือเป็นอาชญากรรมที่ไม่สามารถทำได้

โดยการแก้ไขจะต้องดูความเหมาะสม  การใช้อำนาจศาลในการพิจารณาคดีการถูกอุ้มหาย โดยมีความเห็นว่าควรจะเป็นอำนาจศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เนื่องจากที่ผ่านมาคดีการอุ้มหายส่วนใหญ่เกิดจากกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ  ล่าสุดร่างกฎหมายอยู่ในขั้นตอนเตรียมทำประชาพิจารณ์ ตามมาตรา 77ก่อนจะเร่งเสนอ ครม.เพื่อนำเข้าให้ สนช.พิจารณาต่อไป


สำหรับข้อมูลของสหประชาชาติ ระบุว่าปัจจุบันไทยมีผู้ถูกบังคับให้สูญหาย จำนวน 80 ราย แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นของกรมคุ้มครองสิทธฯพบว่ามี 6 รายที่สามารถยืนยันตัวบุคคลได้ โดยมีทั้งที่ยังมีชีวิต และเสียชีวิตไปแล้ว โดยกรมฯจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง  เพื่อแจ้งให้ยูเอ็นปรับแก้ไขข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน

ที่ผ่านมาไทยได้แต่งตั้งคณะกรรมการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์กรณีถูกกระทำทรมานและถูกบังคับให้สูญหาย หลังจากไทยเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ และภาคีอนุสัญญาต่อต้านการทรมาน และการปฏิบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานนอกจากนี้ยังมีการตั้งคณะอนุกรรมการอีก3 คณะคือ คณะอนุกรรมการติดตามและตรวจสอบกรณีถูกกระทำทรมานและถูกบังคับให้หายสาบสูญคณะอนุการเยียวยาฯ และคณะอนุกรรมการป้องกันการกระทำทรมานฯซึ่งคณะอนุกรรมการฯทั้งหมดจะทำหน้าที่ในการดูแลเยียวยาผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิฯต่อไป

นอกจากนี้  น.ส.ปิติกาญจน์ กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้ยังมีการแก้ไขเพิ่มเติมในส่วนของการคุ้มครองพยาน เพราะไทยมีปัญหาเรื่องนักสิทธิมนุษยชน และพยาน ในคดีสำคัญถูกคุกคามทั้งกรณี นายสมชาย นีละไพจิตร  นายพอลละจี รักษ์จงเจริญ หรือนายบิลลี่แกนนำชาวบ้านกะเหรี่ยงบ้านบางกรอย จ.เพชรบุรีที่ถูกอุ้มหาย หรือคดีสำคัญ เช่น ค้ามนุษย์และคดีความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเดิมกฎหมายให้การคุ้มครองพยานเฉพาะในช่วงที่ต้องขึ้นศาลเท่านั้น และหลังจากนี้กฎหมายจะให้การดูแลตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการในชั้นศาล รวมไปถึงการใช้ชีวิตหลังจบคดีความเพื่อให้พยานมีความมั่นในด้านความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ล่าสุดหลังมีการปรับรูปแบบ ทำให้คดีความมั่นคงในพื้นที่ภาคใต้มีประจักษ์พยานกล้าเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนทำให้ศาลอนุมัติหมายจับแล้วถึง 80 หมาย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

จับหนุ่มอินเดียขนเงินกว่า 15 ล้านบาท เข้าไทย

หนุ่มอินเดียหอบเงินสด 15.7 ล้านบาท เดินเท้าจากปอยเปตเข้าไทย อ้างเล่นพนันได้ เจ้าหน้าที่เร่งขยายผล หวั่นพัวพันคอลเซ็นเตอร์

โฆษกรัฐบาล นำบุกร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า แต่ไหวตัวทันไม่เจออะไร

โฆษกรัฐบาล นำ สคบ.-สธ. บุกร้านลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าย่านสายไหม หลังได้รายงานลับ แต่ร้านไหวตัวทัน ปิดหนีหมดไม่เจออะไร เตรียมเสนอนายกฯ ตั้ง กก.ปราบจริงจัง เผยตัวเลขขายปีละ 5 พันล้าน อ้างเป็นสินค้าผ่านแดน แต่ปล่อยหลุดเข้าไทย

รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย เอี่ยวฟอกเงินหลอกลงทุนคริปโต

ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย กินหรูอยู่สบาย เอี่ยวฟอกเงินขบวนการหลอกลงทุนคริปโต พบเกี่ยวพันอีก 28 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน