เปิดภาพคลิปกล้องหน้ารถ ตร.สภ.ด่านขุนทด เหตุรถบัสทัศนศึกษาเฉี่ยวกระบะพลิกคว่ำ

นครราชสีมา 16 พ.ย. – ความคืบหน้าเหตุรถบัสคณะครูนักเรียนประสบอุบัติเหตุที่นครราชสีมาเมื่อวานนี้ (15 พ.ย.) ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาหนักรถกระบะคู่กรณี ขณะที่การตรวจสอบประกันอุบัติเหตุการเดินทางพบทำไว้ 50 คน แต่เดินทางจริง 56 คน 


นี่คือภาพจากกล้องหน้ารถสายตรวจตำรวจภูธรด่านขุนทด จ.นครราชสีมา บันทึกภาพขณะรถบัสคณะครูนักเรียน โรงเรียนบ้านหนองแซง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ประสบอุบัติเหตุบริเวณหลักกิโลเมตร 35 ถนนสีคิ้ว-ชัยภูมิ ต.ตะเคียน อ.ด่านขุนทด จะเห็นว่ารถบัสเฉี่ยวชนกับรถกระบะทะเบียน บน 798 ลพบุรี บริเวณสี่แยกกุดม่วง ก่อนเสียหลักพุ่งข้ามเลนไปตกถนนอีกฝั่ง ทำให้ ด.ญ.ภิญญาดา ลาภภิญโญ อายุ 11  ปี ชั้น ป.4 นายวีรพล ทองคำ คนขับรถบัส และนางชลธิชา ทองคำ ภรรยาคนขับรถเสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก 

ในภาพจะเห็นว่า หลังเกิดเหตุมีรถกู้ชีพและเจ้าหน้าที่ลงไปช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำผู้บาดเจ็บออกจากรถส่งโรงพยาบาล ล่าสุดมีนักเรียนบาดเจ็บ 9 คน ยังคงรักษาตัวอยู่หอผู้ป่วยเด็ก โรงพยาบาลด่านขุนทด และมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัส 15 คน รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อาการโคม่า 4 คน 


ตำรวจเปิดเผยว่า ขณะเดินทางไปตรวจสอบอุบัติเหตุรถชนกัน พบรถบัสพุ่งข้ามเลนด้วยความเร็วสูงก่อนตกลงไปข้างทาง จึงรีบแจ้งกู้ภัยเข้าช่วยเหลือนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล        

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหานายเสกสรร แวงคำ อายุ 35 ปี คนขับรถกระบะคู่กรณี ข้อหาขับขี่ รถประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับบาดเจ็บ หลังการสอบสวนพบรถกระบะเลี้ยวตัดหน้ากระชั้นชิด ทำให้รถบัสคณะครูนักเรียนซึ่งวิ่งมาด้วยความเร็ว 86 กิโลเมตร/ชั่วโมง พุ่งชนด้านหน้ารถกระบะ ก่อนเสียหลักพุ่งข้ามเลนลงข้างทาง 

ขณะที่การสอบปากคำนายพิทักษ์ แก้วมาตย์ เจ้าของรถบัสโดยสาร ยืนยันพร้อมให้ความช่วยเหลือค่าสินไหมตามสิทธิทุกประการ พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่าตามกฎหมายกำหนดให้บรรทุกผู้โดยสารเพียง 50 คน แต่ทางโรงเรียนปล่อยให้มีผู้โดยสารเกิน 6 คน


ชาวบ้านเปิดเผยว่า บริเวณสี่แยกกุดม่วง เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ทั้งรถชนกันเล็กน้อย และอุบัติเหตุใหญ่ เนื่องจากเป็นทางแยกทางเชื่อมมีรถยนต์รอจังหวะเลี้ยวรถโดยไม่มีสัญญาณไฟจราจร 

ส่วนศพ ด.ญ.ภิญญาดา ญาตินำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด ต.บ้านแก้ง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ  นายอนันต์ ลาภภิญโญ พ่อของ ด.ญ.ภิญญาดา กล่าวทั้งน้ำตา ยังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียลูกสาวคนเล็กไปส่วนภรรยาและลูกชายวัย 10 ปี อีกคน ประสบเหตุครั้งนี้ด้วย อาการยังสาหัส ต้องรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา 

นายอนันต์ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุ 10 นาที ยังพูดคุยกับลูกสาวทางโทรศัพท์ คำตอบสุดท้ายก่อนวางสาย ลูกสาวตอบว่า “ถึงด่านขุนทด ใกล้ถึงบ้านเราแล้ว” โดยไม่คาดคิดว่าจะเป็นการพูดคุยกับลูกสาวเป็นครั้งสุดท้าย 

ด้านผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 2 สั่งระดมครูจิตอาสาจากโรงเรียนอื่นไปช่วยสอนเด็กนักเรียนที่ไม่ได้เดินทางไปทัศนศึกษาแทนครูที่บาดเจ็บ. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย