กรุงเทพฯ 15 พ.ย.-กลุ่มผู้เสียหายรวมตัวร้องกองปราบหลังถูกหลอกซื้อคอร์สเรียนภาษาจีนผ่านเพจ Chinese is fun by Baosan โดยแอบอ้างเป็นหุ้นส่วนบริษัทดังรับสอนภาษาจีน หลังมีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อแล้วหลายรายมูลค่ากว่า 4 แสนบาท แต่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่รับคดีได้ จึงแนะนำให้แจ้งความที่ สน.พื้นที่
นางสาวจันทร์จิรา ศิริสาร กรรมการบริษัทเอ็ดดูสแควร์ พร้อมนางสาวปลิดา วัฒนบวรยศ และผู้เสียหายกว่า 10 คน เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับนางสาวรัตนาภรณ์ คำหาญ หรือครูเป่าซาน เจ้าของเพจ Chinese is fun by Baosan ในข้อหา แอบอ้างชื่อ ปลอมแปลงเอกสารเพื่อฉ้อโกง หลังอ้างเป็นหุ้นส่วนบริษัทสอนภาษาเอ็ดดูสแควร์และเป็นหุ้นส่วนทีชเชอร์เกรก ครูฝรั่งหล่อ เพื่อขายคอร์สภาษาที่บ้านและออนไลน์ แต่ไม่ทำการสอนตามสัญญา อีกทั้งหลอกขายคอร์สแลกเปลี่ยนที่ปักกิ่งกับผู้ปกครองนักเรียน โดยมีความเสียหายตั้งแต่ 6 พันถึง 9 หมื่น 6 พันบาทต่อราย มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 4 แสนบาท
นางสาวจันทร์จิรา เปิดเผยว่าได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่า ได้จ่ายค่าเรียนกับครูที่แอบอ้างชื่อเป่าซาน และปลอมแปลงเอกสารของบริษัทเอ็ดดูสแควร์ พร้อมอ้างเป็นหุ้นส่วนร่วมกับทีชเชอร์เกรก ไปหลอกผู้เสียหายให้เชื่อถือและลงเรียน แต่หลังลงเรียนแล้วกลับไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้ผู้เสียหายมาแจ้งทางบริษัท ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงของบริษัทอย่างมาก
ขณะที่นางสาวปลิดา 1 ในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า หลังไปโพสต์ในเวปไซต์ Bestkru หาครูสอนภาษาจีน จากนั้นได้รับการติดต่อจากครูเป่าซานผ่านทางไลน์ อ้างว่าเป็นลูกครึ่งจีน จบปริญญาโทและเป็นครูมาจากจีน และยังเป็นหุ้นส่วนเอ็ดดูสแควร์ พร้อมเสนอขายคอร์สราคาโปรโมชั่นพิเศษ โดยแต่ละคนจะได้ส่วนลดแตกต่างกันตั้งแต่ 50-80 % รวมทั้งเร่งรัดให้โอนเงินจองคอร์สภายในวันนี้หรือวันพรุ่งนี้ ด้วยความน่าเชื่อถือของบริษัทพวกตนเลยหลงเชื่อ นอกจากนี้มีผู้เสียหายบางรายได้รับการติดต่อเสนอสอนที่บ้านในราคาพิเศษ หากลงคอร์ส 2-5 คอร์สโดยจ่ายเงินล่วงหน้า จะมีสิทธิ์จับฉลากได้ไปทัศนศึกษาที่ปักกิ่งฟรีทั้งครอบครัวด้วย ซึ่งทราบภายหลังว่าผู้เสียหายทุกคนได้รับสิทธิ์จับฉลาก ทั้งนี้เมื่อโอนเงินให้ แต่กลับไม่ได้สอนตามสัญญาและติดต่อไม่ได้ ทั้งนี้ผู้เสียหายบางส่วนไปแจ้งความตามสถานีตำรวจต่างๆ แต่ยังไม่มีความคืบหน้า จึงรวมตัวมาแจ้งความที่กองปราบ ยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด แม้จะมีผู้เสียหายบางส่วนได้รับเงินคืนก็ตาม
ทั้งนี้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามไม่ได้รับแจ้งความไว้ เนื่องจากไม่เข้าหลักเกณฑ์การรับแจ้งความของกองปราบ พร้อมแนะนำให้ผู้เสียหายไปแจ้งความสน.ท้องที่ โดยให้นำหลักฐานการแจ้งความของเจ้าของบริษัทไปประกอบเพิ่ม.-สำนักข่าวไทย