[❌] แชร์ว่อนภาษาจีน เตือนห้ามเที่ยวไทย อ้าง 6 แสนคน โดนมอมยาลักพาตัว | ชัวร์ก่อนแชร์ ABOUT🇹🇭Thailand

26 เมษายน 2566
ชัวร์ก่อนแชร์ ABOUT🇹🇭Thailand | ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องเมืองไทย
ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์ | ทำงานร่วมกับ Taiwan FactCheck Center

ตามที่มีการแชร์เป็นภาษาจีน ทั้งแบบข้อความ และ คลิปวิดีโอ เตือนให้อย่าไปเที่ยวประเทศไทย เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวชาวเอเชียกว่า 600,000 คนถูกมอมยาและลักพาตัวไปสังหารและชำแหละอวัยวะนั้น


บทสรุป ไม่จริง ❌ ไม่ควรแชร์ต่อ

  • ตำรวจท่องเที่ยว ยืนยัน ไม่เป็นความจริงและไม่มีความเป็นไปได้
  • ศูนย์ข้อมูลคนหาย ไม่เคยได้รับแจ้งในลักษณะดังกล่าว
  • คลิปวิดีโอที่แชร์กัน เป็นคลิปเก่าที่เคยแชร์ในต่างประเทศ ไม่มีหลักฐานโยงเกี่ยวกับประเทศไทย

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ได้รับการประสานตรวจสอบจาก Taiwan FactCheck Center หน่วยงานตรวจสอบข้อเท็จจริงในไต้หวัน ระบุว่า พบข้อความแชร์คำเตือนห้ามไปเที่ยวประเทศไทย เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเอเชีย 600,000 คน ถูกมอมยาด้วยเครื่องดื่มในไทย และลักพาตัวหายไป พร้อมกับคลิปวิดีโอที่มีภาพสยดสยองของพฤติกรรมการชำแหละร่างมนุษย์นั้น


ตรวจสอบข้อเท็จจริง : คดีลักพาตัวนักท่องเที่ยว ?

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับ พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้รับการยืนยันว่า ข้อมูลที่แชร์กันในกลุ่มผู้ใช้ภาษาจีนดังกล่าว ที่ว่ามีนักท่องเที่ยวสูญหายมากกว่า 6 แสนคนนั้นไม่เป็นความจริงและไม่มีความเป็นไปได้

พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว

“อาชญากรรมนั้นไม่ว่าประเภทไหน ชนิดไหน ย่อมเกิดขึ้นได้บ้างไม่ว่าในประเทศไหนก็ตาม ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่อาจคาดเดาหรือคาดการณ์ได้ เพราะคงไม่มีประเทศไหนที่ไม่มีอาชญากรรม แต่ที่ว่า มีคนหายมากกว่า 6 แสนคนเมื่อมาเที่ยวประเทศไทยนั้นเป็นไปไม่ได้เลย” พล.ต.ต.อภิชาติระบุ


กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว จัดพิธีปล่อยแถวสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยว ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี พ.ศ.2566 / ที่มา : กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว

ตรวจสอบข้อเท็จจริง : นักท่องเที่ยวหายตัว ?

ด้านนายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา ให้สัมภาษณ์กับ “ชัวร์ก่อนแชร์” กล่าวว่า ในฐานะหน่วยงานรับแจ้งเหตุคนหาย ซึ่งทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ ยืนยันว่า ไม่เคยได้รับแจ้งเหตุการหายตัวไปของนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากอย่างที่แชร์กัน ตัวเลขดังกล่าวเกินความจริงไปมาก หากมีคนหาย ทางมูลนิธิก็มักจะได้รับแจ้งประสานมา

หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย ให้ข้อมูลว่า ในแต่ละปี ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา จะได้รับแจ้งคนหายที่เป็นชาวต่างชาติไม่เกิน 5 ราย และส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรป อเมริกา รวมทั้งแอฟริกาใต้ ที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยแล้วขาดการติดต่อกับครอบครัว มีทั้งพบตัวและไม่พบตัว บางรายติดต่อไม่ได้ บางรายมีการเมาสุรา บางรายไม่ได้เดินทางกลับตามที่วางแผนไว้ หรือเคยมีกรณีผู้สูงอายุที่มีอาการทางสมอง พลัดหลงกับครอบครัว แต่อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ก็มักจะได้รับความช่วยเหลือ

เมื่อเกือบ 5 ปีก่อน มีการแจ้งนักท่องเที่ยวชาวเอเชียหายตัวไป 1 คน เป็นชาวเกาหลีใต้ อย่างไรก็ตาม ทางมูลนิธิไม่สามารถติดต่อกับผู้เกี่ยวข้องได้ จึงยังไม่ทราบว่า ผลการติดตามหาคนหายรายนี้เป็นอย่างไร

เอกลักษณ์ หลุ่มชมแข (เสื้อสีน้ำเงิน-ซ้าย) และ การทำงานของ ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา ที่มา Facebook ศูนย์ข้อมูลคนหาย

ตรวจสอบข้อเท็จจริง : แก๊งชำแหละอวัยวะขาย ?

สำหรับเหตุอาชญากรรมในลักษณะนำร่างกายไปชำแหละขายอวัยวะนั้น โฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ก็ยืนยันว่า ไม่มีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นในประเทศไทย ข้อมูลนี้จึงเป็นไปไม่ได้ และยืนยันด้วยว่า จากการสืบสวนสอบสวนจนถึงปัจจุบัน ไม่มีขบวนการขายอวัยวะมนุษย์เกิดขึ้นในไทย ส่วนที่กล่าวว่าจะมีการปิดข่าวนั้น หากมีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นจริงในยุคนี้ คงจะไม่สามารถปิดข่าวได้แน่นอน

“เท่าที่ผมปฏิบัติหน้าที่ในกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา เพิ่งได้ยินข่าวนักท่องเที่ยวชาวจีนเสียชีวิตที่คาดว่าน่าจะเป็นอาชญากรรมอยู่เรื่องเดียวเท่านั้น ซึ่งจากการตรวจพิสูจน์ศพอวัยวะภายในก็ยังอยู่ครบถ้วน ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตนั้นอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวน ซึ่งทางตำรวจก็มีการประสานงานระหว่างประเทศกันอยู่” โฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวกล่าว

“แต่ละประเทศ มีปัญหาอาชญากรรมที่แตกต่างกัน ในไทยช่วงหลังมีข่าวลักพาตัว แต่ปริมาณก็ไม่เยอะขนาดนั้น การก่อเหตุเป็นลักษณะที่มีการทำความรู้จักกับเหยื่อ รู้ที่มาที่ไป มีเงิน เข้าถึงง่าย อาจจะเป็นคนรู้จักกันมาก่อน ใกล้ชิดกันมาก่อน ไม่ใช่เป็นลักษณะนักท่องเที่ยวมาเที่ยวไทยแล้วถูกลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่” หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย กล่าว

กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว แนะนำว่า นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบและสอบถามข้อมูลได้จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ผ่านเว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์ แอป Tourist Police I-Lert-U หรือ โทรศัพท์สอบถามโดยตรงที่สายด่วนหมายเลข 1155 ซึ่งมีเจ้าหน้าที่สื่อสารภาษาอังกฤษ รัสเซีย จีน ญี่ปุ่น และ เกาหลี

ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย Taiwan FactCheck Center

ทั้งนี้ บทความตรวจสอบข้อเท็จจริงของ Taiwan FactCheck Center ซึ่งเผยแพร่ตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2566 ได้ตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบด้าน และมีข้อสรุปว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง ไม่มีข้อเท็จจริงรองรับ เมื่อตรวจสอบสถานทูตของประเทศต่าง ๆ ก็ไม่มีการออกคำเตือนเกี่ยวกับการลักพาตัวแต่อย่างใด พร้อมกันนั้น ยังได้อ้างอิงถึงข่าวสารนิเทศของสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง ยืนยันว่า ไทยให้ความสำคัญกับคุณภาพและความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวจีน

“สำหรับเนื้อหาหรือความคิดเห็นต่อความไม่ปลอดภัยในการท่องเที่ยวที่อาจส่งผลต่อความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนนั้น ขอชี้แจงว่า นับตั้งแต่สาธารณรัฐประชาชนจีนอนุญาตให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศ ไทยได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจีน รวมทั้งได้มีการเพิ่มช่องทางการสื่อสารเพื่อให้นักท่องเที่ยวจีนสามารถเข้าถึงข้อมูลและแจ้งเหตุฉุกเฉินต่อตำรวจท่องเที่ยว ที่พร้อมดูแลอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย” เอกสารข่าวระบุ

ตรวจสอบข้อเท็จจริง : คลิปวิดีโอ

ส่วนกรณีคลิปวิดีโอที่มีการแชร์มาพร้อมกันนั้น Taiwan FactCheck Center ได้ดำเนินการวิเคราะห์ตรวจยืนยันอย่างละเอียด พบว่าเป็นคลิปที่มาจาก 3 แหล่ง โดยหนึ่งในนั้นเป็นภาพยนตร์ที่จำลองการลักพาตัว อีกทั้งคลิปดังกล่าวยังเคยแพร่กระจายมาแล้วในหลายประเทศ อาทิ เม็กซิโก สเปน อียิปต์ อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไม่มีหลักฐานใดที่โยงเกี่ยวกับประเทศไทยแต่อย่างใด

บทสรุป

ดังนั้น ข้อมูลที่แชร์เตือนไม่ให้เที่ยวประเทศไทย เนื่องจากมีแก๊งมอมยาสลบลักพาตัวนั้น จึงไม่มีข้อเท็จจริงรองรับ และไม่ควรแชร์ต่อ

26 เมษายน 2566
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์
สำนักข่าวไทย อสมท
ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์


ข้อความที่แชร์กัน

不要去泰國玩

因有東方人失蹤60萬人被綁架喝泰國飲料麻醉!

然後解剖器官及身體有價值的骨骼,沒有利用價值的全丟到海裡餵魚!

千萬千萬不要去泰國!

泰國政府很壞新聞不報導!

泰國政客為利益與販賣人體器官集團掛勾!

勸勸愛去泰國旅遊的人不要去!

千萬不要去泰國旅遊!

คำแปลโดยสังเขป

อย่าไปเมืองไทย
ผู้คนกว่า 600,000 คนถูกลักพาตัวและถูกดมยาสลบจากการดื่มเครื่องดื่มไทย
เนื่องจากการหายตัวไปของชาวตะวันออก!
จากนั้นผ่าอวัยวะและกระดูกที่มีค่าของร่างกาย
แล้วโยนสิ่งที่ไร้ประโยชน์ทั้งหมดลงทะเลเพื่อให้อาหารปลา!
อย่าไปประเทศไทย!
รัฐบาลไม่รายงานข่าวร้าย!
นักการเมืองไทยโยงเอี่ยวค้าอวัยวะค้ามนุษย์!
แนะคนรักเที่ยวไทยอย่าไป!
อย่าไปเที่ยวเมืองไทย!

[ตัวอย่างข้อมูลที่แชร์กัน]

[บทความตรวจสอบข้อเท็จจริง Taiwan FactCheck Center] 【錯誤】網傳影片「不要去泰國玩,失蹤60萬人被綁架」?
https://tfc-taiwan.org.tw/articles/9048

[ข่าวสารนิเทศ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง]
https://weibo.com/3223655791/MyAiUbmxY?pagetype=profilefeed


ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้

สภาอุตสาหกรรมฯ 15 ก.ย.-“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ ปัดตอบใครขาดคุณสมบัติบ้าง แต่ยืนยันนิ่งและครบแล้ว เผยหลังถวายสัตย์ฯ พร้อมแถลงนโยบายต่อสภาทันที เพื่อเดินหน้าทำงานโดยเร็ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จำเป็นจะต้องเชิญพรรคร่วมรัฐบาลหารือด้วยหรือไม่ ว่า ตอนนี้ได้มีการยกร่างคำแถลงขึ้นมาแล้ว และได้ส่งเนื้อหาในส่วนของกระทรวงที่แต่ละคนรับผิดชอบ ให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติม หรือตัดอะไรที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับเขามากที่สุด จะได้เข้ามาทำงานได้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สไตล์คนละพรรคแต่พวกเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติของคณะรัฐมนตรี ขณะนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รายงานกลับมาแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใกล้แล้ว เรียกได้ว่ารายชื่อ 100% แล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบประวัติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติก่อนนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยยืนยันว่าจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายในสัปดาห์นี้ ส่วนขั้นตอนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้วก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่ทันทีที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาก็จะต้องรอการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จากนั้นก็จะเร่งแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถึงจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมร่างแถลงนโยบายต่อสภาไว้แล้ว ทันทีเมื่อพร้อมก็สามารถให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดหมายวันประชุมได้ทันที ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังยืนยันด้วยว่า ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีครบและนิ่งแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า […]

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

แบงก์ชาติเตรียมแถลงบ่ายนี้ ปมผลกระทบ “บัญชีม้า”

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)-สมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูลบ่ายวันนี้ กรณีปัญหาผลกระทบประชาชน จากการระงับธุรกรรมเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้า ด้านนักวิเคราะห์ เปรียบเทียบปัญหาไทย-จีน หวังรัฐบาลใหม่เอาจริง ธปท.แจ้งว่า บ่ายวันนี้ เวลา 13.00-14.30 น. ธปท.จะมีการชี้แจงรายละเอียดการระงับธุรกรรมในเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้าให้แก่สื่อมวลชน ณ ห้องแถลงข่าว อาคาร 2 ธปท. โดยนางดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน นางสาวอรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการ ธปท. และนายสุปรีชา ลิมปิกาญจนโกวิท ผู้แทนจากสมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูล การชี้แจงดังกล่าว ก็เป็นเรื่องต่อเนื่องจากวานนี้ที่มีการประชุมร่วมกันของหน่วยงานรัฐ-ธปท.-สมาคมธนาคารไทย เพื่อร่วมปลดล็อกปัญหา ปรับแนวทางการอายัดบัญชีและกระบวนการปลดอายัด เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนสุจริต หลังจากมีประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ตามขั้นตอน ทางธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย