[❌] แชร์ว่อนภาษาจีน เตือนห้ามเที่ยวไทย อ้าง 6 แสนคน โดนมอมยาลักพาตัว | ชัวร์ก่อนแชร์ ABOUT🇹🇭Thailand

26 เมษายน 2566
ชัวร์ก่อนแชร์ ABOUT🇹🇭Thailand | ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องเมืองไทย
ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์ | ทำงานร่วมกับ Taiwan FactCheck Center

ตามที่มีการแชร์เป็นภาษาจีน ทั้งแบบข้อความ และ คลิปวิดีโอ เตือนให้อย่าไปเที่ยวประเทศไทย เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวชาวเอเชียกว่า 600,000 คนถูกมอมยาและลักพาตัวไปสังหารและชำแหละอวัยวะนั้น


บทสรุป ไม่จริง ❌ ไม่ควรแชร์ต่อ

  • ตำรวจท่องเที่ยว ยืนยัน ไม่เป็นความจริงและไม่มีความเป็นไปได้
  • ศูนย์ข้อมูลคนหาย ไม่เคยได้รับแจ้งในลักษณะดังกล่าว
  • คลิปวิดีโอที่แชร์กัน เป็นคลิปเก่าที่เคยแชร์ในต่างประเทศ ไม่มีหลักฐานโยงเกี่ยวกับประเทศไทย

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ได้รับการประสานตรวจสอบจาก Taiwan FactCheck Center หน่วยงานตรวจสอบข้อเท็จจริงในไต้หวัน ระบุว่า พบข้อความแชร์คำเตือนห้ามไปเที่ยวประเทศไทย เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเอเชีย 600,000 คน ถูกมอมยาด้วยเครื่องดื่มในไทย และลักพาตัวหายไป พร้อมกับคลิปวิดีโอที่มีภาพสยดสยองของพฤติกรรมการชำแหละร่างมนุษย์นั้น


ตรวจสอบข้อเท็จจริง : คดีลักพาตัวนักท่องเที่ยว ?

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับ พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้รับการยืนยันว่า ข้อมูลที่แชร์กันในกลุ่มผู้ใช้ภาษาจีนดังกล่าว ที่ว่ามีนักท่องเที่ยวสูญหายมากกว่า 6 แสนคนนั้นไม่เป็นความจริงและไม่มีความเป็นไปได้

พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว

“อาชญากรรมนั้นไม่ว่าประเภทไหน ชนิดไหน ย่อมเกิดขึ้นได้บ้างไม่ว่าในประเทศไหนก็ตาม ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่อาจคาดเดาหรือคาดการณ์ได้ เพราะคงไม่มีประเทศไหนที่ไม่มีอาชญากรรม แต่ที่ว่า มีคนหายมากกว่า 6 แสนคนเมื่อมาเที่ยวประเทศไทยนั้นเป็นไปไม่ได้เลย” พล.ต.ต.อภิชาติระบุ


กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว จัดพิธีปล่อยแถวสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยว ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี พ.ศ.2566 / ที่มา : กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว

ตรวจสอบข้อเท็จจริง : นักท่องเที่ยวหายตัว ?

ด้านนายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา ให้สัมภาษณ์กับ “ชัวร์ก่อนแชร์” กล่าวว่า ในฐานะหน่วยงานรับแจ้งเหตุคนหาย ซึ่งทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ ยืนยันว่า ไม่เคยได้รับแจ้งเหตุการหายตัวไปของนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากอย่างที่แชร์กัน ตัวเลขดังกล่าวเกินความจริงไปมาก หากมีคนหาย ทางมูลนิธิก็มักจะได้รับแจ้งประสานมา

หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย ให้ข้อมูลว่า ในแต่ละปี ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา จะได้รับแจ้งคนหายที่เป็นชาวต่างชาติไม่เกิน 5 ราย และส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรป อเมริกา รวมทั้งแอฟริกาใต้ ที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยแล้วขาดการติดต่อกับครอบครัว มีทั้งพบตัวและไม่พบตัว บางรายติดต่อไม่ได้ บางรายมีการเมาสุรา บางรายไม่ได้เดินทางกลับตามที่วางแผนไว้ หรือเคยมีกรณีผู้สูงอายุที่มีอาการทางสมอง พลัดหลงกับครอบครัว แต่อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ก็มักจะได้รับความช่วยเหลือ

เมื่อเกือบ 5 ปีก่อน มีการแจ้งนักท่องเที่ยวชาวเอเชียหายตัวไป 1 คน เป็นชาวเกาหลีใต้ อย่างไรก็ตาม ทางมูลนิธิไม่สามารถติดต่อกับผู้เกี่ยวข้องได้ จึงยังไม่ทราบว่า ผลการติดตามหาคนหายรายนี้เป็นอย่างไร

เอกลักษณ์ หลุ่มชมแข (เสื้อสีน้ำเงิน-ซ้าย) และ การทำงานของ ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา ที่มา Facebook ศูนย์ข้อมูลคนหาย

ตรวจสอบข้อเท็จจริง : แก๊งชำแหละอวัยวะขาย ?

สำหรับเหตุอาชญากรรมในลักษณะนำร่างกายไปชำแหละขายอวัยวะนั้น โฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ก็ยืนยันว่า ไม่มีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นในประเทศไทย ข้อมูลนี้จึงเป็นไปไม่ได้ และยืนยันด้วยว่า จากการสืบสวนสอบสวนจนถึงปัจจุบัน ไม่มีขบวนการขายอวัยวะมนุษย์เกิดขึ้นในไทย ส่วนที่กล่าวว่าจะมีการปิดข่าวนั้น หากมีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นจริงในยุคนี้ คงจะไม่สามารถปิดข่าวได้แน่นอน

“เท่าที่ผมปฏิบัติหน้าที่ในกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา เพิ่งได้ยินข่าวนักท่องเที่ยวชาวจีนเสียชีวิตที่คาดว่าน่าจะเป็นอาชญากรรมอยู่เรื่องเดียวเท่านั้น ซึ่งจากการตรวจพิสูจน์ศพอวัยวะภายในก็ยังอยู่ครบถ้วน ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตนั้นอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวน ซึ่งทางตำรวจก็มีการประสานงานระหว่างประเทศกันอยู่” โฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวกล่าว

“แต่ละประเทศ มีปัญหาอาชญากรรมที่แตกต่างกัน ในไทยช่วงหลังมีข่าวลักพาตัว แต่ปริมาณก็ไม่เยอะขนาดนั้น การก่อเหตุเป็นลักษณะที่มีการทำความรู้จักกับเหยื่อ รู้ที่มาที่ไป มีเงิน เข้าถึงง่าย อาจจะเป็นคนรู้จักกันมาก่อน ใกล้ชิดกันมาก่อน ไม่ใช่เป็นลักษณะนักท่องเที่ยวมาเที่ยวไทยแล้วถูกลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่” หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย กล่าว

กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว แนะนำว่า นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบและสอบถามข้อมูลได้จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ผ่านเว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์ แอป Tourist Police I-Lert-U หรือ โทรศัพท์สอบถามโดยตรงที่สายด่วนหมายเลข 1155 ซึ่งมีเจ้าหน้าที่สื่อสารภาษาอังกฤษ รัสเซีย จีน ญี่ปุ่น และ เกาหลี

ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย Taiwan FactCheck Center

ทั้งนี้ บทความตรวจสอบข้อเท็จจริงของ Taiwan FactCheck Center ซึ่งเผยแพร่ตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2566 ได้ตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบด้าน และมีข้อสรุปว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง ไม่มีข้อเท็จจริงรองรับ เมื่อตรวจสอบสถานทูตของประเทศต่าง ๆ ก็ไม่มีการออกคำเตือนเกี่ยวกับการลักพาตัวแต่อย่างใด พร้อมกันนั้น ยังได้อ้างอิงถึงข่าวสารนิเทศของสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง ยืนยันว่า ไทยให้ความสำคัญกับคุณภาพและความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวจีน

“สำหรับเนื้อหาหรือความคิดเห็นต่อความไม่ปลอดภัยในการท่องเที่ยวที่อาจส่งผลต่อความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนนั้น ขอชี้แจงว่า นับตั้งแต่สาธารณรัฐประชาชนจีนอนุญาตให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศ ไทยได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจีน รวมทั้งได้มีการเพิ่มช่องทางการสื่อสารเพื่อให้นักท่องเที่ยวจีนสามารถเข้าถึงข้อมูลและแจ้งเหตุฉุกเฉินต่อตำรวจท่องเที่ยว ที่พร้อมดูแลอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย” เอกสารข่าวระบุ

ตรวจสอบข้อเท็จจริง : คลิปวิดีโอ

ส่วนกรณีคลิปวิดีโอที่มีการแชร์มาพร้อมกันนั้น Taiwan FactCheck Center ได้ดำเนินการวิเคราะห์ตรวจยืนยันอย่างละเอียด พบว่าเป็นคลิปที่มาจาก 3 แหล่ง โดยหนึ่งในนั้นเป็นภาพยนตร์ที่จำลองการลักพาตัว อีกทั้งคลิปดังกล่าวยังเคยแพร่กระจายมาแล้วในหลายประเทศ อาทิ เม็กซิโก สเปน อียิปต์ อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไม่มีหลักฐานใดที่โยงเกี่ยวกับประเทศไทยแต่อย่างใด

บทสรุป

ดังนั้น ข้อมูลที่แชร์เตือนไม่ให้เที่ยวประเทศไทย เนื่องจากมีแก๊งมอมยาสลบลักพาตัวนั้น จึงไม่มีข้อเท็จจริงรองรับ และไม่ควรแชร์ต่อ

26 เมษายน 2566
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์
สำนักข่าวไทย อสมท
ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์


ข้อความที่แชร์กัน

不要去泰國玩

因有東方人失蹤60萬人被綁架喝泰國飲料麻醉!

然後解剖器官及身體有價值的骨骼,沒有利用價值的全丟到海裡餵魚!

千萬千萬不要去泰國!

泰國政府很壞新聞不報導!

泰國政客為利益與販賣人體器官集團掛勾!

勸勸愛去泰國旅遊的人不要去!

千萬不要去泰國旅遊!

คำแปลโดยสังเขป

อย่าไปเมืองไทย
ผู้คนกว่า 600,000 คนถูกลักพาตัวและถูกดมยาสลบจากการดื่มเครื่องดื่มไทย
เนื่องจากการหายตัวไปของชาวตะวันออก!
จากนั้นผ่าอวัยวะและกระดูกที่มีค่าของร่างกาย
แล้วโยนสิ่งที่ไร้ประโยชน์ทั้งหมดลงทะเลเพื่อให้อาหารปลา!
อย่าไปประเทศไทย!
รัฐบาลไม่รายงานข่าวร้าย!
นักการเมืองไทยโยงเอี่ยวค้าอวัยวะค้ามนุษย์!
แนะคนรักเที่ยวไทยอย่าไป!
อย่าไปเที่ยวเมืองไทย!

[ตัวอย่างข้อมูลที่แชร์กัน]

[บทความตรวจสอบข้อเท็จจริง Taiwan FactCheck Center] 【錯誤】網傳影片「不要去泰國玩,失蹤60萬人被綁架」?
https://tfc-taiwan.org.tw/articles/9048

[ข่าวสารนิเทศ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง]
https://weibo.com/3223655791/MyAiUbmxY?pagetype=profilefeed


ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]

อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ย่องให้ข้อมูลตำรวจกองปราบ

12 ก.ค. – อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร แอบย่องเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจกองปราบ เวลา 12.05 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เบื้องต้นส่วมชุด โปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าวันนี้เข้ามาให้ปากคำกรณีที่ ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสวัดโสธรฯ ไม่ตอบแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมต่ออีกว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่นั้น ด้านอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน.-414-สำนักข่าวไทย