[❌] แชร์ว่อนภาษาจีน เตือนห้ามเที่ยวไทย อ้าง 6 แสนคน โดนมอมยาลักพาตัว | ชัวร์ก่อนแชร์ ABOUT🇹🇭Thailand

26 เมษายน 2566
ชัวร์ก่อนแชร์ ABOUT🇹🇭Thailand | ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องเมืองไทย
ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์ | ทำงานร่วมกับ Taiwan FactCheck Center

ตามที่มีการแชร์เป็นภาษาจีน ทั้งแบบข้อความ และ คลิปวิดีโอ เตือนให้อย่าไปเที่ยวประเทศไทย เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวชาวเอเชียกว่า 600,000 คนถูกมอมยาและลักพาตัวไปสังหารและชำแหละอวัยวะนั้น


บทสรุป ไม่จริง ❌ ไม่ควรแชร์ต่อ

  • ตำรวจท่องเที่ยว ยืนยัน ไม่เป็นความจริงและไม่มีความเป็นไปได้
  • ศูนย์ข้อมูลคนหาย ไม่เคยได้รับแจ้งในลักษณะดังกล่าว
  • คลิปวิดีโอที่แชร์กัน เป็นคลิปเก่าที่เคยแชร์ในต่างประเทศ ไม่มีหลักฐานโยงเกี่ยวกับประเทศไทย

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ได้รับการประสานตรวจสอบจาก Taiwan FactCheck Center หน่วยงานตรวจสอบข้อเท็จจริงในไต้หวัน ระบุว่า พบข้อความแชร์คำเตือนห้ามไปเที่ยวประเทศไทย เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเอเชีย 600,000 คน ถูกมอมยาด้วยเครื่องดื่มในไทย และลักพาตัวหายไป พร้อมกับคลิปวิดีโอที่มีภาพสยดสยองของพฤติกรรมการชำแหละร่างมนุษย์นั้น


ตรวจสอบข้อเท็จจริง : คดีลักพาตัวนักท่องเที่ยว ?

ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับ พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้รับการยืนยันว่า ข้อมูลที่แชร์กันในกลุ่มผู้ใช้ภาษาจีนดังกล่าว ที่ว่ามีนักท่องเที่ยวสูญหายมากกว่า 6 แสนคนนั้นไม่เป็นความจริงและไม่มีความเป็นไปได้

พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว

“อาชญากรรมนั้นไม่ว่าประเภทไหน ชนิดไหน ย่อมเกิดขึ้นได้บ้างไม่ว่าในประเทศไหนก็ตาม ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่อาจคาดเดาหรือคาดการณ์ได้ เพราะคงไม่มีประเทศไหนที่ไม่มีอาชญากรรม แต่ที่ว่า มีคนหายมากกว่า 6 แสนคนเมื่อมาเที่ยวประเทศไทยนั้นเป็นไปไม่ได้เลย” พล.ต.ต.อภิชาติระบุ


กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว จัดพิธีปล่อยแถวสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยว ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี พ.ศ.2566 / ที่มา : กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว

ตรวจสอบข้อเท็จจริง : นักท่องเที่ยวหายตัว ?

ด้านนายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา ให้สัมภาษณ์กับ “ชัวร์ก่อนแชร์” กล่าวว่า ในฐานะหน่วยงานรับแจ้งเหตุคนหาย ซึ่งทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ ยืนยันว่า ไม่เคยได้รับแจ้งเหตุการหายตัวไปของนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากอย่างที่แชร์กัน ตัวเลขดังกล่าวเกินความจริงไปมาก หากมีคนหาย ทางมูลนิธิก็มักจะได้รับแจ้งประสานมา

หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย ให้ข้อมูลว่า ในแต่ละปี ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา จะได้รับแจ้งคนหายที่เป็นชาวต่างชาติไม่เกิน 5 ราย และส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรป อเมริกา รวมทั้งแอฟริกาใต้ ที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยแล้วขาดการติดต่อกับครอบครัว มีทั้งพบตัวและไม่พบตัว บางรายติดต่อไม่ได้ บางรายมีการเมาสุรา บางรายไม่ได้เดินทางกลับตามที่วางแผนไว้ หรือเคยมีกรณีผู้สูงอายุที่มีอาการทางสมอง พลัดหลงกับครอบครัว แต่อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่ก็มักจะได้รับความช่วยเหลือ

เมื่อเกือบ 5 ปีก่อน มีการแจ้งนักท่องเที่ยวชาวเอเชียหายตัวไป 1 คน เป็นชาวเกาหลีใต้ อย่างไรก็ตาม ทางมูลนิธิไม่สามารถติดต่อกับผู้เกี่ยวข้องได้ จึงยังไม่ทราบว่า ผลการติดตามหาคนหายรายนี้เป็นอย่างไร

เอกลักษณ์ หลุ่มชมแข (เสื้อสีน้ำเงิน-ซ้าย) และ การทำงานของ ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา ที่มา Facebook ศูนย์ข้อมูลคนหาย

ตรวจสอบข้อเท็จจริง : แก๊งชำแหละอวัยวะขาย ?

สำหรับเหตุอาชญากรรมในลักษณะนำร่างกายไปชำแหละขายอวัยวะนั้น โฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ก็ยืนยันว่า ไม่มีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นในประเทศไทย ข้อมูลนี้จึงเป็นไปไม่ได้ และยืนยันด้วยว่า จากการสืบสวนสอบสวนจนถึงปัจจุบัน ไม่มีขบวนการขายอวัยวะมนุษย์เกิดขึ้นในไทย ส่วนที่กล่าวว่าจะมีการปิดข่าวนั้น หากมีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นจริงในยุคนี้ คงจะไม่สามารถปิดข่าวได้แน่นอน

“เท่าที่ผมปฏิบัติหน้าที่ในกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา เพิ่งได้ยินข่าวนักท่องเที่ยวชาวจีนเสียชีวิตที่คาดว่าน่าจะเป็นอาชญากรรมอยู่เรื่องเดียวเท่านั้น ซึ่งจากการตรวจพิสูจน์ศพอวัยวะภายในก็ยังอยู่ครบถ้วน ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตนั้นอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวน ซึ่งทางตำรวจก็มีการประสานงานระหว่างประเทศกันอยู่” โฆษกกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวกล่าว

“แต่ละประเทศ มีปัญหาอาชญากรรมที่แตกต่างกัน ในไทยช่วงหลังมีข่าวลักพาตัว แต่ปริมาณก็ไม่เยอะขนาดนั้น การก่อเหตุเป็นลักษณะที่มีการทำความรู้จักกับเหยื่อ รู้ที่มาที่ไป มีเงิน เข้าถึงง่าย อาจจะเป็นคนรู้จักกันมาก่อน ใกล้ชิดกันมาก่อน ไม่ใช่เป็นลักษณะนักท่องเที่ยวมาเที่ยวไทยแล้วถูกลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่” หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย กล่าว

กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว แนะนำว่า นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบและสอบถามข้อมูลได้จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ผ่านเว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์ แอป Tourist Police I-Lert-U หรือ โทรศัพท์สอบถามโดยตรงที่สายด่วนหมายเลข 1155 ซึ่งมีเจ้าหน้าที่สื่อสารภาษาอังกฤษ รัสเซีย จีน ญี่ปุ่น และ เกาหลี

ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย Taiwan FactCheck Center

ทั้งนี้ บทความตรวจสอบข้อเท็จจริงของ Taiwan FactCheck Center ซึ่งเผยแพร่ตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2566 ได้ตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบด้าน และมีข้อสรุปว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง ไม่มีข้อเท็จจริงรองรับ เมื่อตรวจสอบสถานทูตของประเทศต่าง ๆ ก็ไม่มีการออกคำเตือนเกี่ยวกับการลักพาตัวแต่อย่างใด พร้อมกันนั้น ยังได้อ้างอิงถึงข่าวสารนิเทศของสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง ยืนยันว่า ไทยให้ความสำคัญกับคุณภาพและความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวจีน

“สำหรับเนื้อหาหรือความคิดเห็นต่อความไม่ปลอดภัยในการท่องเที่ยวที่อาจส่งผลต่อความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนนั้น ขอชี้แจงว่า นับตั้งแต่สาธารณรัฐประชาชนจีนอนุญาตให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศ ไทยได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจีน รวมทั้งได้มีการเพิ่มช่องทางการสื่อสารเพื่อให้นักท่องเที่ยวจีนสามารถเข้าถึงข้อมูลและแจ้งเหตุฉุกเฉินต่อตำรวจท่องเที่ยว ที่พร้อมดูแลอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย” เอกสารข่าวระบุ

ตรวจสอบข้อเท็จจริง : คลิปวิดีโอ

ส่วนกรณีคลิปวิดีโอที่มีการแชร์มาพร้อมกันนั้น Taiwan FactCheck Center ได้ดำเนินการวิเคราะห์ตรวจยืนยันอย่างละเอียด พบว่าเป็นคลิปที่มาจาก 3 แหล่ง โดยหนึ่งในนั้นเป็นภาพยนตร์ที่จำลองการลักพาตัว อีกทั้งคลิปดังกล่าวยังเคยแพร่กระจายมาแล้วในหลายประเทศ อาทิ เม็กซิโก สเปน อียิปต์ อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไม่มีหลักฐานใดที่โยงเกี่ยวกับประเทศไทยแต่อย่างใด

บทสรุป

ดังนั้น ข้อมูลที่แชร์เตือนไม่ให้เที่ยวประเทศไทย เนื่องจากมีแก๊งมอมยาสลบลักพาตัวนั้น จึงไม่มีข้อเท็จจริงรองรับ และไม่ควรแชร์ต่อ

26 เมษายน 2566
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์
สำนักข่าวไทย อสมท
ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย พีรพล อนุตรโสตถิ์


ข้อความที่แชร์กัน

不要去泰國玩

因有東方人失蹤60萬人被綁架喝泰國飲料麻醉!

然後解剖器官及身體有價值的骨骼,沒有利用價值的全丟到海裡餵魚!

千萬千萬不要去泰國!

泰國政府很壞新聞不報導!

泰國政客為利益與販賣人體器官集團掛勾!

勸勸愛去泰國旅遊的人不要去!

千萬不要去泰國旅遊!

คำแปลโดยสังเขป

อย่าไปเมืองไทย
ผู้คนกว่า 600,000 คนถูกลักพาตัวและถูกดมยาสลบจากการดื่มเครื่องดื่มไทย
เนื่องจากการหายตัวไปของชาวตะวันออก!
จากนั้นผ่าอวัยวะและกระดูกที่มีค่าของร่างกาย
แล้วโยนสิ่งที่ไร้ประโยชน์ทั้งหมดลงทะเลเพื่อให้อาหารปลา!
อย่าไปประเทศไทย!
รัฐบาลไม่รายงานข่าวร้าย!
นักการเมืองไทยโยงเอี่ยวค้าอวัยวะค้ามนุษย์!
แนะคนรักเที่ยวไทยอย่าไป!
อย่าไปเที่ยวเมืองไทย!

[ตัวอย่างข้อมูลที่แชร์กัน]

[บทความตรวจสอบข้อเท็จจริง Taiwan FactCheck Center] 【錯誤】網傳影片「不要去泰國玩,失蹤60萬人被綁架」?
https://tfc-taiwan.org.tw/articles/9048

[ข่าวสารนิเทศ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง]
https://weibo.com/3223655791/MyAiUbmxY?pagetype=profilefeed


ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]

“ภูมิธรรม” อุบตอบรายละเอียดถก GBC บอกทิศทางดี

ทำเนียบรัฐบาล 6 ส.ค.- “ภูมิธรรม” อุบตอบรายละเอียดถก GBC ไทย-กัมพูชา ขอพูดทีเดียวหลังเจรจา บอกทิศทางดี ด้าน “บิ๊กเล็ก” หวังพรุ่งนี้มีข่าวดี มั่นใจ 90% ยอมรับกังวลบ้าง แต่มีผู้สังเกตการณ์ประเทศอื่น เขมรคงไม่กล้า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และคณะรัฐมนตรีชุดเล็ก ว่า ที่ประชุมวันนี้ได้รับฟังข้อมูลจากคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ฝ่ายเลขานุการ รายงานผลการหารือ ในช่วงวันที่ 4-6 สิงหาคม จากการพูดคุยมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดี โดยจะแถลงรายละเอียดเมื่อมีการหารือเสร็จสิ้นในช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้ (7 ส.ค.68) ซึ่งการเจรจาในวันพรุ่งนี้ได้ให้แนวทาง พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อเข้าร่วมการประชุม เพื่อให้ได้ข้อยุติอย่างดีที่สุด พร้อมยืนยันว่าในการหารือครั้งนี้จะไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชา ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ยังไม่สามารถตอบได้ ด้านพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังการประขุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ว่า มีความมั่นใจ […]

ศบ.ทก. เผย GBC สรุปข้อตกลง 2 ฝ่าย จ่อชง สมช.-ครม.นัดพิเศษ

ทำเนียบ 6 ส.ค.- ศบ.ทก. เผยข่าวดี ที่ประชุม GBC สรุปข้อตกลง 2 ฝ่าย พร้อมเตรียมเสนอให้ สมช. – ครม. นัดพิเศษ พิจารณาเย็นนี้ ก่อน รมช.กห. เดินทางร่วมลงนามพรุ่งนี้ ด้าน กต. เตรียมประชุมทูตทั่วโลก เพื่อชี้แจงสถานการณ์ให้นานาชาติเข้าใจ หลังพาองค์การระหว่างประเทศเยี่ยม 18 เชลยศึก ขณะที่ผ่อนปรนให้โดรนเพื่อการเกษตรบินได้หลัง 15 ส.ค.นี้ พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทบ.) และนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมกับนางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงการณ์ภายหลังจากการประชุมความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พลเรือตรีสุรสันต์ แถลงว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในส่วนของความมั่นคงในห้วงที่ผ่านมา สถานการณ์โดยทั่วไปอยู่ในสภาวะปกติ มีการเสริมที่มั่นทางทหารในพื้นที่บางส่วน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่มีการเสริมกำลังทหารแต่อย่างใด ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเช่นเดียวกันก็มีการตรวจพบว่ามีการใช้โดรนเพิ่มมากยิ่งขึ้น ในสถานการณ์ไทยห้ามบินโดรนทั่วประเทศ ซึ่งฝ่ายความมั่นคงยังเข้มงวดในการสกัดกั้น ตรวจตรา ตรวจสอบ รวมทั้งดำเนินการตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 15 […]

กกพ.จี้ MEA แจงปัญหาไฟดับ

กรุงเทพฯ 6 ส.ค. – สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จี้การไฟฟ้านครหลวง (MEA) แจ้งปัญหาไฟดับเป็นบริเวณกว้าง ด้านประชาชนแห่คอมเมนต์ผลกระทบและต้องการเห็นการชดเชย จากปัญหาความเดือดร้อนคนกรุงเทพฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา (5 ส.ค.) เวลา 22.12 น. เกิดไฟดับเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่ย่านสะพานควาย เขตพญาไท ถ.ประดิพัทธ์ และ ถ.พระรามที่ 6 และ MEA แก้ไขจนจ่ายครบเวลา 23.50 น. ทางสำนักงาน กกพ.แจ้งว่าได้ประสานให้การไฟฟ้านครหลวง (MEA) รายงานข้อเท็จจริง และแนวทางการแก้ไขและป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก ในขณะที่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบต่างระบุเดือดร้อนจากเหตุไฟดับ ต้องการให้ MEA ชี้แจงสาเหตุที่ชัดเจน บางส่วนก็ชื่นชม แก้ปัญหาได้รวดเร็ว บางส่วนก็ต้องการเห็น การชดเชยจาก MEA เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เศรษฐกิจและมีประชาชนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยไฟดับทั้งอาคาร ดับทั้งไฟสาธารณะ ไฟจราจร สัญญาณอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ MEA ชี้แจงเบื้องต้นสาเหตุเกิดจากความขัดข้องทางเทคนิคของอุปกรณ์ในสถานีไฟฟ้าย่อย ในระหว่างการเตรียมการเพื่อปฏิบัติงานปรับปรุงระบบจ่ายไฟฟ้าตามปกติ, ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายหรือภัยคุกคามทางไซเบอร์ สาเหตุที่แท้จริงของอุปกรณ์ขัดข้องจะชี้แจงต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า […]