นนทบุรี 15 พ.ย.-ตำรวจลงพื้นที่จำลองเหตุการณ์เวลาเดียวกับตอนเกิดเหตุ นพ.ยอร์น ชน รปภ.บาดเจ็บ พบแสงสว่างเพียงพอ และ รปภ.ใส่เสื้อขาว คำให้การที่อ้างว่ามองไม่เห็นจึงฟังไม่ขึ้น มั่นใจมีหลักฐานพยานชัดเจน เอาผิดได้
จากกรณี นพ.ยอร์น จิระนคร สาธารณสุขนิเทศก์เขต 12 กระทรวงสาธารณสุข ขับรถชนเจ้าหน้าที่ รปภ. บริเวณประตูทางเข้ากระทรวงสาธารณสุข ฝั่งสถาบันบำราศนราดูร จนบาดเจ็บสาหัส โดยอ้างว่า ทางมืด มองไม่เห็นทั้งคนและประตู และเมื่อชนแล้ว ก็คิดว่าชนประตู ไม่ได้ชนคน
ล่าสุด 20.00 น. วานนี้ (14 พ.ย.) พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.ปัณณพัฒน์ เดชโชติพิสิฐ ผู้กำกับการ สภ.เมืองนนทบุรี พร้อมด้วยผู้เห็นเหตุการณ์ ลงพื้นที่เกิดเหตุที่กระทรวงสาธารณสุข ถนนติวานนท์ ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี เพื่อจำลองเหตุการณ์ในเวลาที่ตรงกับเหตุที่เกิดขึ้นจริง และใช้ไฟข้างทางให้เป็นเหมือนกับวันเกิดเหตุ พร้อมกับใช้รถลักษณะเดียวกันกับของ นพ.ยอร์น
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า ตรวจสอบแสงสว่างจุดเกิดเหตุ พบว่าแสงสว่างชัดเจนในระยะ 100 เมตร ประกอบกับไฟหน้ารถ และชุดแต่งกายของ รปภ.เป็นเสื้อสีขาว ตามคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหาที่ว่ามองไม่เห็น จึงไม่สามารถกล่าวอ้างได้ ด้านหน้าประตูไม่พบร่องรอยการเหยียบเบรกก่อนชน รถวิ่งมาด้วยความเร็วสูง ทำให้สลักประตูหลุด และ รปภ.ที่อยู่ด้านหลังประตูกระเด็นออกมา มั่นใจตำรวจมีพยานหลักฐานชัดเจนที่จะเอาผิดได้
ขณะที่ นายเอ ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า วันเกิดเหตุขับรถมาตาม ถ.ติวานนท์ เข้าไปในกระทรวงสาธารณสุข เพื่อรับน้องสาว ขณะที่ขับรถมานั้น เห็นรถคันที่เกิดเหตุ กำลังถอยหลังรถออกมาจากซอยติวานนท์ 14/1 ในลักษณะเหมือนรถเลี้ยวผิดซอย ทำให้รถของตนต้องขับตามหลัง กระทั่งรถเลี้ยวเข้าไปในซอยเกิดเหตุ เห็นประตูรั้วปิดแล้ว เลยจะเลี้ยวรถกลับไปใช้เส้นทางอื่นแทน จากนั้นก็เห็นรถคันที่เกิดเหตุพุ่งชนประตูรั้ว จนร่าง รปภ.กระเด็นไปนอนอยู่ที่พื้นถนน จากนั้นรถกลับขับทับร่าง รปภ.จนติดอยู่ใต้ท้อง ลากไปไกลเกือบ 30 เมตร ตนจึงส่องสัญญานไฟหน้ารถ เพื่อให้รถคันดังกล่าวจอด เพื่อบอกว่า มีคนติดอยู่ใต้รถโ ดยได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไว้
หลังจากนั้นก็เห็นคนขับรถเป็นชายเดินลงมาจากรถ พยายามจะดึงร่าง รปภ.ที่ติดอยู่ใต้ท้องรถออกมา แต่ไม่สำเร็จ ตนจึงโทรแจ้งตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัย เข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ หลังจากนั้นมีรถพยาบาลของ รพ.บำราศฯ เข้ามาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และเห็นว่าชายที่ลงมาจากรถ มีลักษณะท่าทางการพูดจาไม่เหมือนคนปกติทั่วไป คล้ายคนเมาสุรา จนมาทราบจากสื่อว่า คนขับรถที่เกิดเหตุเป็น นพ.ยอร์น ตนเห็นว่าคนที่เป็นหมอ ไม่น่ากระทำแบบนี้ จึงได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน พร้อมนำภาพถ่ายวันที่เกิดเหตุมามอบให้ไว้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี
ส่วนความคืบหน้าด้านคดีความ เมื่อวานนี้ (14 พ.ย.) นพ.ยอร์น ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำ และรับทราบข้อกล่าวหาที่ สภ.นนทบุรี โดยมี พล.ต.อ.วิระชัย รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาสอบปากคำด้วยตัวเอง เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา นพ.ยอร์น 3 ข้อหา คือ ขับขี่รถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ขับขี่รถในขณะเมาสุรา และพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยข้อหาสุดท้าย ตำรวจได้สอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ และเปิดกล้องวงจรปิดตรวจสอบ พบว่าหลังจาก นพ.ยอร์น ขับรถชน รปภ. ได้หยุดรถประมาณ 25 วินาที ก่อนขับรถทับ และลากร่างของ รปภ.ไปไกลถึง 20 เมตร อย่างไรก็ตาม นพ.ยอร์น ให้การยอมรับเพียงข้อหาเดียว คือ ขับขี่รถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และใช้ตำแหน่งหน้าที่และเงินสด 500,000 บาท ประกันตัวออกไป
นอกจากเรื่องคดีความยังมีการเรียกร้องให้สอบวินัยกับผู้ต้องหา โดย นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เข้ายื่นหนังสือถึง รมว.สาธารณสุข เรียกร้องในประเด็นดังกล่าว โดยบอกว่าเรื่องนี้กระทรวงสาธารณสุขไม่ควรนิ่งเฉย ควรปฏิบัติให้เหมือนกับการสอบสวนวินัยร้ายแรงข้าราชการกระทรวงสาธารณสุขลวนลามลูกน้อง เพราะเรื่องนี้เกี่ยวพันกับชีวิต รวมถึงกระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานที่ตั้งต้นเรื่องเมาไม่ขับมาตลอด และอยากเสนอให้ปรับแก้กฎหมายในการตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่มองว่ายังมีช่องโหว่อยู่
ขณะที่ พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าทั้งสองฝ่าย ซึ่งเป็นคนของกระทรวงสาธารณสุขจะได้รับความเป็นธรรม พร้อมยอมรับอุบัติเหตุครั้งนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้เพิ่มไฟส่องสว่างทุกประตูทางเข้าออก และตัดแต่งต้นไม้ รวมถึงสำรวจแก้ไขจุดเสี่ยงอื่นๆ ด้วย.-สำนักข่าวไทย