ทำเนียบฯ 16 ต.ค.-“พล.ท.สรรเสริญ” ระบุการประดับภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ต้องดำเนินการให้ถูกระเบียบ เหมาะสม ยันไม่มีการสั่งการปลดภาพพระบรมฉายาลักษณ์ ระบุประชาชนร่วมไว้อาลัยด้วยการติดริบบิ้นสีดำได้
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีการสั่งการให้ปลด หรือ ห้ามประดับภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ตามที่มีข่าวแพร่กระจายในโซเชียลมีเดีย ดังนั้นการเทิดพระเกียรติและแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ โดยการประดับภาพพระบรมฉายาลักษณ์ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศยังคงปฏิบัติได้ต่อไป แต่ต้องดำเนินการให้ถูกระเบียบ เหมาะสม และอยากให้ความสำคัญในการประดับผ้าแพรสีดำ-ขาวให้ถูกต้องตามที่สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้ประกาศ หากหน่วยงานใดเข้าใจผิด ต้องดำเนินการให้ถูกต้องโดยเร็ว เพราะส่งผลต่อจิตใจประชาชนทั้งชาติ โดยการประดับผ้าระบาย ผ้าสีดำต้องอยู่ด้านบนและสีขาวอยู่ด้านล่าง ส่วนการจัดโต๊ะหมู่บูชา จะประกอบด้วยพระบรมฉายาลักษณ์ เครื่องทองน้อย และผ้าระบาย รวมทั้งงดประดับธงตราสัญลักษณ์
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า สำหรับการแต่งกายไว้ทุกข์ มีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้บางคนหาเสื้อผ้าดำหรือขาวล้วนยาก จึงขอให้มองเจตนาที่จะร่วมถวายอาลัย และใส่เสื้อสีพื้น ไม่ฉูดฉาด ไม่มีดอกหรือลวดลาย โดยประดับริบบิ้นสีขาวหรือดำตามที่เห็นว่าเหมาะสม จึงขอสังคมอย่าไปเพ่งพิจารณาว่าคนเหล่านี้ไม่แสดงความอาลัย
ส่วนกรณีที่สังคมออนไลน์มีการแชร์ภาพอัญเชิญภาพพระบรมฉายาลักษณ์ลงนั้น พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า เป็นขั้นตอนการประดับผ้าระบาย เปลี่ยนข้อความ หรือเปลี่ยนภาพให้เหมาะสมกับเหตุการณ์ จึงอยากขอร้องผู้ที่ไม่ทราบข้อเท็จจริงอย่าคิดไปเองแล้วสร้างกระแสความเข้าใจผิด รวมถึงประชาชนที่รับข้อมูลที่ปราศจากแหล่งอ้างอิง ก็ไม่สมควรส่งต่อให้เกิดความสับสนยิ่งขึ้น ทั้งนี้หากมีข้อสงสัยใด ขอให้ประชาชนสอบถามจากสายด่วน 1111 ทำเนียบรัฐบาล
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ในเวลา 15.00 น. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรุงเทพมหานคร กรมขนส่งทางบก ตำรวจจราจร และหน่วยงานประชาสัมพันธ์ จะชี้แจงมาตรการและการอำนวยความสะดวกให้ประชาชน ผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (เอ็นบีที) ทั้งนี้ภายหลังพระราชพิธีครบ 15 วัน ในวันที่ 28 ตุลาคม เวลา 13.00 น. ได้มีพระบรมราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศได้ที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท และหลังจากวันที่ 28 ตุลาคม จะเปิดโอกาสให้ประชาชนเฝ้าสักการะได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น.
พล.ท.สรรเสริญ ยังกล่าวถึงกลุ่มที่ฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาค่าโดยสารในช่วงเวลานี้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามข่าวสารโดยตลอด และพยายามดูแลกวดขันกำชับไม่ให้เกิดกรณีดังกล่าวขึ้น เพราะเชื่อว่าไม่ได้มีการกระทำเช่นนี้ทุกคน ขณะเดียวกันเมื่อคืนวานนี้ (15 ต.ค.) นายกรัฐมนตรีเดินทางกลับมาทำเนียบรัฐบาล ได้พบกับจักรยานยนต์รับจ้างที่ให้บริการฟรี ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีอีกมุมหนึ่ง.-สำนักข่าวไทย