กาฬสินธุ์ 13 พ.ย.-หญิงชาวกาฬสินธุ์และสามีชาวสวิตเซอร์แลนด์เลือกแนวทางเกษตรอินทรีย์ ต่อยอดเป็นธุรกิจเลี้ยงครอบครัว พร้อมสร้างเครือข่ายเกษตรกร แบ่งปันองค์ความรู้ จุดเด่นอยู่ที่การแปรรูปไข่เป็ดเป็นไข่เค็มต้มหลายรส การปลูกผักอินทรีย์คุณภาพขึ้นห้างหลากชนิด โดยมีกลไกของกระทรวงเกษตรฯ สนับสนุน
เคเคฟาร์ม บ้านเหล่าสูง อ.เมืองกาฬสินธุ์ คือ ฟาร์มเกษตรขนาด 25 ไร่ ของปราจิตร และแวนเนอร์ คนอปเปอร์ สามีชาวสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีเคลวิน ลูกชายคนเดียว คอยช่วยงานอย่างคล่องแคล่ว เกินเด็กวัย 17 ปี เคเคฟาร์มเลี้ยงเป็ดแบบธรรมชาติราว 800 ตัว ให้ไข่วันละกว่า 400 ฟอง โดยไม่พึ่งฮอร์โมน ยาปฏิชีวนะ ยาฆ่าแมลง และสารเร่งการเจริญเติบโต กลไกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หลายส่วน ทั้งปศุสัตว์อำเภอ เกษตรจังหวัด เข้ามาให้คำแนะนำ เช่น ไม่ทำให้เป็ดตกใจ ให้มันกินอิ่ม ทำเล้าไข่ให้มิดชิด เหล่านี้ล้วนมีผลต่อปริมาณการให้ไข่ ขณะที่มูลเป็ดให้ฉีดสารไตรโคเดอร์มาเพื่อทำลายเชื้อรา เป็นต้น
จากไข่สด เป็นไข่เค็มต้ม จากไข่เค็มต้มธรรมดา เคเคฟาร์มฉีกแนวแปรรูปเป็นไข่เค็มต้มหลากรส ได้แก่ ไข่เค็มต้มแกงใต้, ต้มยำ และฝางเสน โดยใช้สมุนไพรให้สีต่างๆ สีเหลืองจากขมิ้น สีชมพูจากฝางเสน และสีน้ำตาลจากเปลือกหัวหอม กลายเป็นไข่เค็มสมุนไพรแฟนตาซี เพิ่มมูลค่าได้กว่าร้อยละ 30
ขณะที่พืชผักก็ล้วนเป็นอินทรีย์ ที่นี่เปลี่ยนมาปลูกผักในกระถางทั้งหมดราว 4 เดือนแล้ว เพราะสามารถควบคุมคุณภาพและการเจริญเติบโตได้ดีกว่า เคเคฟาร์มไม่ได้หยุดแค่อินทรีย์ แต่กำลังยกระดับสู่ผักออร์แกนิก ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตร กาฬสินธุ์ กรมวิชาการเกษตร กำลังตรวจประเมิน
ผลผลิตจากเคเคฟาร์ม เป็นที่ยอมรับคุณภาพขึ้นห้าง จนผลิตไม่ทันความต้องการของตลาด พวกเขาจึงสร้างเครือข่ายเกษตรกรเพื่อขยายกำลังการผลิต ไม่เพียงได้ต่อยอดทางธุรกิจ แต่ยังเป็นการแบ่งปันองค์ความรู้ สร้างความสามัคคีในหมู่เพื่อนเกษตรกร และที่สำคัญยังได้เพิ่มทางเลือกอาหารปลอดภัยให้ผู้บริโภค.-สำนักข่าวไทย