กรุงเทพฯ 12 พ.ย. – ปัญหาโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิต “โจ บอยสเก๊าท์” เรื่องนี้สามารถแก้ไขได้หากได้รับการตรวจรักษาภายใน 2 ชั่วโมงแรกที่แสดงอาการ และสำหรับกลุ่มเสี่ยงเบาหวาน ความดันโลหิต ควรได้รับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า จากข้อมูลใบมรณะบัตร กระทรวงมหาดไทย พบว่า มีผู้เสียชีวิต จากโรคหัวใจขาดเลือด เฉลี่ยปีละ 50,000 จากโรคหัวใจขาดเลือด ส่วนใหญ่เป็นเสียชีวิตนอกโรงพยาบาล เช่น ที่บ้าน หรือตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้รับการวินิจฉัย ขณะเดียวกันก็พบว่า มีการส่งตัวผู้ป่วยที่แสดงอาการจากโรคหัวใจขาดเลือดมายังโรงพยาบาลเฉลี่ยปีละ 20,000 คน ในจำนวนร้อยละ 10 เสียชีวิต การช่วยชีวิตของผู้ที่มาโรงพยาบาล ส่วนใหญ่จะได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ภายใน 1 ชั่วโมง จากอาการแน่นหน้าอก ปวดร้าว ตั้งแต่สันหลังถึงสะบัก แต่กรณีล้มลงหมดสติแบบโจ บอยสเก๊าท์ การช่วยชีวิตให้กลับมาปกติได้นั้นทำได้ แค่ร้อยละ 10 โดยหากมีการใช้กระตุกไฟฟ้าหัวใจ หรือเออีดี ร่วมด้วยจะช่วยให้มีโอกาสชีวิตมากถึง ร้อยะ 70 เพราะชั่วโมงทองของการกู้ชีพ จากโรคหัวใจขาดเลือด ควรกระทำภายใน 2 ชั่วโมงแรก โอกาสรอดชีวิตถึงจะมีสูง จากการสังเกตคลิปจะพบว่า โจ เริ่มแสดงอาการเหนื่อยหอบจนต้องหยุดพักการแสดง นั่นก็ถือเป็นสัญญาณเตือนอย่างหนึ่ง ฉะนั้นต้องรู้จักสังเกตตัวเองให้เสมือนตัวเองเป็นหมอ และหยุดพัก เพื่อขอความช่วยเหลือทันที
สำหรับกลุ่มเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด สามารถเกิดขึ้นได้ โดยที่ไม่รู้ตัวมาก่อน ฉะนั้นการตรวจสุขภาพประจำปี จึงเป็นสิ่งสำคัญ กลุ่มเสี่ยงผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือผู้ที่ติดบุหรี่ ควรได้รับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ รวมถึงผู้ที่มีอายุ 50 ปี ขึ้นไป. -สำนักข่าวไทย