จับตาปัจจัยต่างประเทศกระทบเงินบาท-หุ้นไทย

กรุงเทพฯ 11 พ.ย. – ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินแนวโน้มเงินบาท-หุ้นไทย 13-17 พ.ย. จับตานโยบายการเงินและแผนปฏิรูปภาษีสหรัฐ


บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงานการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์ที่ผ่านมา (6-10 พ.ย.) ว่า ใกล้เคียงระดับ 33.10 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ  โดยเงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยตั้งแต่กลางสัปดาห์ท่ามกลางปัจจัยลบของเงินดอลลาร์ฯ โดยเฉพาะจากความไม่แน่นอนของแผนปฏิรูปภาษีของสหรัฐ หลังจากร่างกฎหมายของวุฒิสมาชิกเสนอให้เลื่อนเวลาการปรับลดอัตราภาษีนิติบุคคลลงสู่ร้อยละ  20 ออกไปจนถึงปี 2562  นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ ยังมีปัจจัยกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับสัญญาณการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปีหน้า ซึ่งจะมีคณะกรรมการ FOMC ปรับเปลี่ยนหลายตำแหน่ง  สำหรับวันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน เงินบาทอยู่ที่ 33.11 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 33.12 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า 

สำหรับสัปดาห์หน้า (13-17 พ.ย.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.00-33.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยคงต้องติดตามสัญญาณทิศทางนโยบายการเงินสหรัฐจากเจ้าหน้าที่เฟด ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนพฤศจิกายน ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคานำเข้าและส่งออก ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรม การเริ่มสร้างบ้านและการขออนุญาตก่อสร้างเดือนตุลาคม สตอกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ และข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิสู่ตลาดการเงินสหรัฐเดือนกันยายน นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/60 ของญี่ปุ่นและยูโรโซนด้วยเช่นกัน


ส่วนดัชนีตลาดหุ้นไทยร่วงลงช่วงปลายสัปดาห์ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,689.28 ลดลงร้อยละ 0.72 จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลงประมาณร้อยละ  6.67 จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 56,361.73 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ปิดที่ 557.75 จุด ลดลงร้อยละ 2.27 จากสัปดาห์ก่อน ทั้งนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยช่วงต้น-กลางสัปดาห์ได้รับปัจจัยหนุนเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงาน จากการปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน รวมถึงยังมีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มการเงินเข้ามาช่วยประคองตลาด ขณะที่ SET ช่วงปลายสัปดาห์ต้องเผชิญกับแรงกดดันจากผลประกอบการของ บจ.งวดไตรมาส 3/2560 ออกมาไม่ดีอย่างที่คาดการณ์ ประกอบกับแรงขายทำกำไรของนักลงทุนต่างชาติและกลุ่มสถาบัน นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยต่างประเทศเข้ามาเพิ่มในประเด็นกระแสข่าวเกี่ยวกับแผนปฏิรูปภาษีของสหรัฐที่อาจถูกชะลอกระบวนการเริ่มบังคับใช้ออกไป

สำหรับสัปดาห์หน้า (13-17 พ.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,675 และ 1,665 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,700 และ 1,710 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ แผนปฏิรูปภาษีของสหรัฐ และการปรับน้ำหนักหุ้นที่ใช้ในการคำนวน ดัชนี MSCI ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐสำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิตและผู้บริโภค ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน และยอดค้าปลีกเดือนตุลาคม ตลอดจนดัชนีการผลิตของเฟดฟิลาเดลเฟียเดือนพฤศจิกายน ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่น ๆ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/60 และอัตราเงินเฟ้อเดือนตุลาคม ของประเทศในแถบยุโรป รวมถึงตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2560 ของญี่ปุ่น และดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนตุลาคมของจีน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

voting ballot of Manchester, New Hampsher

เผยผลเอ็กซิตโพลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 2024                                               

รอยเตอร์เผยเอ็กซิตโพลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐว่า 2 ผู้สมัครที่เป็นคู่แข่งขันกันได้คะแนนเสียงจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลุ่มใดในสัดส่วนเท่าใด

รองเจ้าอาวาสวัดดัง เปย์สีกาไม่อั้น ลาสิกขาแล้ว

“รองเจ้าอาวาสวัดดัง” ลาสิกขาแล้วกลางดึก หลังปมฉาวเปย์สีกาไม่อั้น บอกไม่อยากให้เกิดความเสื่อมเสียต่อวัดและคณะสงฆ์

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

ข่าวแนะนำ

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

หาทางออก แม่ทำกรงขังลูกติดยาหวังรักษา

กรณีแม่วัย 64 ปี ที่บุรีรัมย์ สร้างห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมรับลูกชายวัย 42 ปี กำลังจะกลับจากการบำบัด แต่ถูกตีความว่าเป็นการละเมิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือ พร้อมหาทางออกในการบำบัดรักษาที่ถูกต้อง

จับ 2 หนุ่มญี่ปุ่นอุ้มรีดเงิน ทำร้ายร่างกาย บังคับกินอุจจาระ

สืบนครบาล จับชายชาวญี่ปุ่น 2 คน อุ้มเพื่อนร่วมชาติ ทำร้ายร่างกาย บังคับกินอุจจาระ เรียกเงิน 3 แสนบาท พบหนีคดีจากญี่ปุ่นมาขายกัญชาในประเทศไทย