กก.ปฏิรูปวางกรอบ 2 ประเด็นรองรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0

ทำเนียบฯ 8 พ.ย.- นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปเพื่อรองรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เน้น 2 ประเด็นหลัก คือการปฏิรูประบบราชการ และการเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21  มุ่งปลดล็อคปัญหาสำคัญ และสร้างรูปแบบใหม่ในการบริหารจัดการ  


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนตามนโยบายไทยแลนด์4.0 ครั้งที่ 1/2560 ณ ห้องประชุมตึกภักดีบดินทร์  ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งคณะกรรรมการประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิทั้งภาคราชการ เอกชน ประชาสังคม และวิชาการ โดยมีสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เป็นฝ่ายเลขานุการ  คณะกรรมการมีหน้าที่กำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์การดำเนินการตามนโยบาย ไทยแลนด์4.0 พิจารณากำหนดหรือคัดเลือกแผนงานโครงการต้นแบบที่สอดคล้องต่อการดำเนินการ พร้อมทั้งกำกับติดตามเพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม     

นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมว่า ที่ประชุมได้พิจารณากรอบการดำเนินการปฏิรูปเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ใน 2 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1.การปฏิรูประบบราชการ และ 2.การเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 การปฏิรูประบบราชการ ประกอบด้วย 1.การปรับปรุงประสิทธิภาพการบริการภาครัฐ (Service Reform) 2.การพัฒนาและการรังสรรค์นวัตกรรมในรูปแบบใหม่ (Sandbox) 3.การปฏิรูปกฎหมาย (Regulatory Reform) และ 4.การเป็นรัฐบาลดิจิทัล (Digital Government)   


รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ด้านการปรับปรุงประสิทธิภาพการบริการภาครัฐ จะดำเนินการเร่งด่วนใน 4 เรื่อง ได้แก่ 1.การขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สุขภาพของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยจะแก้ไขกฎหมาย กฎระเบียบให้ยืดหยุ่นมากขึ้น และจัดตั้งกองทุนส่งเสริมผู้ประกอบการและสมุนไพร มุ่งลดคำขอคงค้างให้หมดภายในต้นปี 2562 ปรับการดำเนินการให้เร็วขึ้น ลดการนำเข้ายา เพิ่มการเข้าถึงยาและเพิ่มมูลค่าการผลิตเครื่องมือแพทย์  

2.การจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาของกรมทรัพย์สินทางปัญญา ที่จะแก้ปัญหา Backlog สิทธิบัตรการประดิษฐ์ให้หมดภายในปี 2563 พร้อมเพิ่มศักยภาพผู้ตรวจสอบสิทธิบัตร  3.การจดทะเบียนที่ดินของกรมที่ดิน ซึ่งคิวรังวัดมีขั้นตอนมากและการเข้าถึงข้อมูลที่ดินมีข้อจำกัด โดยจะแก้ไขกฎหมายเพื่อให้เจ้าของที่ดินแปลงข้างเคียงไม่ต้องเดินทางมาระวังชี้แนวเขต เพื่อลดภาระการชี้แนวเขต ลดข้อพิพาทและเวลารอคิวรังวัดจากเดิม 440 วัน ให้เหลือน้อยกว่า 60 วัน

4.การนำเข้าและส่งออกของกรมศุลกากร ที่มีขั้นตอน แบบฟอร์มมาก ซ้ำซ้อน ระยะเวลาดำเนินการนาน ค่าใช้จ่ายสูง และขาด National Single Window Operator ที่แท้จริง โดยจะพัฒนาโครงการต้นแบบในการเชื่อมโยงข้อมูลของหน่วยงานใน 4  สินค้ายุทธศาสตร์ของประเทศ ได้แก่ ยาง ข้าว อ้อยและน้ำตาลทราย วัตถุอันตราย และสินค้าแช่แข็ง โดยมุ่งลดภาระผู้นำเข้าส่งออกสินค้าปีละไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และลดภาระการผลิตแบบฟอร์มและค่าส่งเอกสาร  


นายสุวิทย์ กล่าวว่า สำหรับทางด้านการพัฒนาและการรังสรรค์นวัตกรรมในรูปแบบใหม่ จะพัฒนา 4 เรื่อง ได้แก่ 1.การแก้ไขพื้นที่ป่าและการใช้ประโยชน์พื้นที่จังหวัดน่าน และกลไกการบริหารจัดการ ที่มีข้อพิพาทการใช้พื้นที่ บุกรุกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และภาคราชการไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทันท่วงที โดยจะให้พื้นที่จังหวัดน่านเป็นพื้นที่ทดลองการกำหนดการบริหารจัดการพื้นที่ป่าโดยบุคคลภายนอกและการส่งเสริมอาชีพเกษตรกร เพื่อลดการบุกรุกพื้นที่ป่าอนุรักษ์และส่งเสริมการเศรษฐกิจฐานชีวภาพ

2. Public School โรงเรียนที่ให้ภาคส่วนต่างๆ เข้ามาบริหารโดยรัฐยังคงเป็นเจ้าของ โดยจะกำหนดพื้นที่ทดลองให้การดำเนินนโยบายเป็นไปอย่างอิสระ จัดตั้งคณะกรรมการบริหาร Public School และดำเนินการในรูปแบบ Social Enterprise เพื่อสร้างนวัตกรรมในการจัดการศึกษา สร้างศักยภาพของนักเรียนและสร้างความร่วมมือในรูปแบบประชารัฐด้านการจัดการศึกษา แก้ไขคุณภาพการศึกษาของประเทศอยู่ในระดับต่ำ (PISA 2015) 3.พลังงาน (Smart City โดยเทคโนโลยี Smart Grid) มุ่งส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าใช้เอง สร้างความมั่นคงให้ระบบไฟฟ้า ส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าแบบกระจายศูนย์ ลดภาระการลงทุน มุ่งแก้ไขปัญหาที่ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถผลิตไฟฟ้าใช้ได้เอง แต่ติดข้อกฎหมายและการไม่อนุญาตให้ซื้อขายไฟฟ้ากันเอง

4.หน่วยราชการ 4.0 (High Performance Organization : HPO) โดยขอยกเว้นกฎระเบียบ หลักเกณฑ์ เพื่อแก้ปัญหาความไม่คล่องตัวในการบริหารองค์กร มุ่งสู่องค์กรที่มีขีดสมรรถนะสูง ซึ่งมีหน่วยงานต้นแบบ 4 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กรมบังคับคดี และสำนักงาน ก.พ.ร.    

นายสุวิทย์ กล่าวว่า สำหรับการปฏิรูปกฎหมาย  มีข้อเสนอการแก้ไขกฎหมาย กฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจ โดยแบ่งประเภทกฎหมายที่ต้องแก้ไขออกเป็น 4 กลุ่ม คือ 1.ข้อเสนอที่ต้องขอมติคณะรัฐมนตรี  2.ข้อเสนอที่ต้องมีการยกร่างกฎหมาย นำเสนอคณะรัฐมนตรี  คณะรักษาความสงบแห่งชาติ 3.ข้อเสนอที่ส่งให้ศาลยุติธรรมพิจารณา 4.ข้อเสนอแนะที่จะส่งคณะทำงานยกร่าง พ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจ 

ส่วนด้านการเป็นรัฐบาลดิจิทัล หน่วยงานภาครัฐยังไม่มีความพร้อมในการเชื่อมโยงข้อมูล ประชาชน ไม่มีช่องทางขอรับเอกสารอิเล็กทรอนิกส์จากภาครัฐ และไม่มีหน่วยงานทำหน้าที่ทะเบียนกลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลภาครัฐ จึงจะจัดทำ Data Exchange Center และ Citizen Inbox ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนสามารถร้องขอเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ล่วงหน้าก่อนไปขอรับบริการได้ และหน่วยงานสามารถขอเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ตรงจากหน่วยงานอื่นได้หากประชาชนไม่ได้ขอเอกสารมาก่อน 

นายสุวิทย์ กล่าวว่า ในด้านการเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 ได้ให้ความสำคัญกับการปรับเปลี่ยน คนไทย 2 ด้าน ได้แก่ 1.Transition of Learning ปรับเปลี่ยนคนไทยให้ใฝ่เรียนรู้ มีกระบวนการคิดวิเคราะห์ตามหลักและเหตุผล สามารถสังเคราะห์บูรณาการข้อมูล มีทักษะด้านเทคโนโลยี สร้างนวัตกรรม และ 2.Transition of Culture ให้คนไทยพอเพียง มีวินัย สุจริต จิตสาธารณะ รับผิดชอบ โดยขับเคลื่อนให้เกิดการปรับเปลี่ยนสังคมไทยอย่างเป็นองค์รวม ซึ่งมีโครงการที่จะดำเนินการ เช่น โครงการ “ก้าวออกมากล้า” ที่จะมีการจัดกิจกรรมในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ และโครงการ “ทำดีเยี่ยงพ่อ” เป็นต้น เพื่อสร้างพลเมืองที่มีคุณภาพ ขับเคลื่อนสังคมไทยเป็นสังคมที่ Clean & clear, Free & fair, Caring & sharing  

นายสุวิทย์ กล่าวว่า ในการดำเนินการได้วางกลไกการทำงานโดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงนั้น ๆ ทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพหลัก และให้ส่วนราชการทำหน้าที่เป็นผู้ปฏิบัติ และมีคณะกรรมการชุดดังกล่าว และอนุกรรมการพัฒนาระบบราชการเกี่ยวกับการขับเคลื่อนระบบราชการ 4.0 เป็นที่ปรึกษาสนับสนุนการขับเคลื่อนการปฏิรูป เพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนตามนโยบายไทยแลนด์4.0 ต่อไป.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เร่งหาสาเหตุ จนท.สวนสัตว์ลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตรุมขย้ำ

10 ก.ย. – เหตุสลด จนท.สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งถูกสิงโตรุมขย้ำจนเสียชีวิต ขณะลงจากรถ ทางสวนสัตว์เร่งหาสาเหตุลงไปทำไม ทั้งที่เจ้าตัวทราบกฎของสวนสัตว์ดีอยู่แล้ว นักท่องเที่ยวอินเดียบันทึกเหตุการณ์ขณะเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตตัวแรกเข้ามากัดจากทางด้านหลัง แล้วลากไปให้เพื่อนสิงโตอีก 4 ตัว รุมขย้ำ โดยในคลิปเจ้าหน้าที่ไม่ได้ดิ้นขัดขืน และไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนนอนแน่นิ่งและถูกรุมกัดจนเสียชีวิต ขณะที่ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์สิงโตรุมขย้ำเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์ และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างนอกรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูรถทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้าเข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนรู้สึกแปลกใจอย่างมาก แต่เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาข้างหลัง ก่อนตะครุบเข้าทางด้านหลังเจ้าหน้าที่ทันที โดยเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าทีขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้นสิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ […]

เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำยังขาดให้เสร็จภายในคืนนี้

ร้อยเอ็ด 10 ก.ย. – เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมถนนสายบ้านทรายมูล-โพธิ์ตาก ซึ่งเสมือนพนังกั้นน้ำยัง หลังถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนขาด เมื่อช่วงเช้าวานนี้ โดยต้องปรับแผนนำเสาไฟฟ้ามาวางขวางเป็นแนวบิ๊กแบ็ก เพื่อให้แล้วเสร็จภายในคืนนี้. – สำนักข่าวไทย

ส่องสาเหตุรถชนโครมเดียว เสาไฟฟ้าล้ม 77 ต้น

เชียงใหม่ 10 ก.ย. – อุบัติเหตุรถบรรทุกน้ำดื่มแหกโค้งพุ่งชนเสาไฟฟ้าที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สร้างความเสียหายหนัก เสาไฟฟ้าล้มกว่า 70 ต้น บ้านเรือนเสียหาย 20 หลัง สาเหตุเกิดจากอะไร. – สำนักข่าวไทย

“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก จะทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์

พรรคภูมิใจไทย 10 ก.ย.-“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก ขอนำประสบการณ์ที่มีทั้งหมด ทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขอบคุณเสียงชื่นชม-ความคาดหวัง เป็นกำลังใจทำงาน รับทำไม่ได้ทุกเรื่อง แต่จะเลือกทำสิ่งที่เกิดผลอย่างดีที่สุด นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเปิดใจถึงความมุ่งมั่นที่เข้ามารับตำแหน่งในครั้งนี้ว่า ตนมีความตั้งใจเหมือนนายกฯ พูดไปแล้วว่า ระยะเวลาสั้นๆ นี้ เป็นระยะเวลาที่มีความท้าทาย และมีความสำคัญมาก ประเทศเราต้องเดินไปข้างหน้า ไม่ว่าจะระยะเวลาสั้นแค่ไหน “ดิฉันในฐานะที่มีโอกาสได้ทำงานมาหลากหลาย รวมถึงงานระหว่างประเทศด้วย ตั้งใจจะนำเอาประสบการณ์ ความสามารถที่มีอยู่ทั้งหมด มาทุ่มเทให้ในระยะเวลาสั้นๆ นี้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งมีธงเดียวกับนายกฯ คือ ทำประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศชาติและพี่น้องประชาชนให้ได้อย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ” นางศุภจี กล่าว เมื่อถามว่า สังคมชื่นชมและคาดหวังผลงานต่อจากนี้ นางศุภจี กล่าวว่า ขอบคุณที่ได้รับการชื่นชม และได้รับการคาดหวัง ถือเป็นกำลังใจที่ดีอย่างยิ่ง และจะยิ่งเป็นกำลังใจที่ทำให้ทุกคนไม่ผิดหวัง ดังนั้นก็จะประสานมือกับทีมงานทุกคนภายใต้นโยบายของนายกฯ และนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ ทำเรื่องเศรษฐกิจของประเทศไทยให้กลับมาให้ได้ ภายในระยะเวลาอันสั้น เมื่อถามว่า ถือเป็นการบ้านที่หนักหรือไม่ เพราะเข้ามาในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศเป็นแบบนี้ นางศุภจี กล่าวว่า […]