กรุงเทพฯ 29 ต.ค.-สศก. เผย ภาพรวมดัชนีรายได้เกษตรกร รอบ 9 เดือน ปี 60 เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.88 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คาด
ทั้งปี ดัชนีรายได้เกษตรกรยังเพิ่ม จากผลผลิตสินค้าเกษตรที่มากขึ้น มั่นใจนโยบายขับเคลื่อนการเกษตร
และการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภาคเกษตรเป็นไปตามเป้า
นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.)
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงภาพรวมรายได้เกษตรกร สะท้อนจากดัชนีรายได้เกษตรกร
ในระยะ 9 เดือน ปี 2560
(มกราคม – กันยายน 2560) อยู่ที่ระดับ 155.34
เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (มกราคม – กันยายน 2559)
ร้อยละ 8.88
เป็นผลมาจากดัชนีผลผลิตที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.50
ในขณะที่ดัชนีราคาปรับตัวลดลงร้อยละ 1.47 และหากพิจารณาแนวโน้มดัชนีรายได้เกษตรกรทั้งปี 2560 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2559
เป็นผลจากผลผลิตสินค้าเกษตรที่เพิ่มขึ้น อาทิ ข้าวนาปรัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
อ้อยโรงงาน สับปะรดโรงงาน ยางพารา ปาล์มน้ำมัน
และผลไม้ แม้ว่าดัชนีราคาสินค้าเกษตรมีแนวโน้มลดลงก็ตาม
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรลดลงในปี 2560
เป็นผลมาจากการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตทำให้ปริมาณผลผลิตเพิ่มมากขึ้น
แต่เนื่องจากปัญหาคุณภาพสินค้าที่มีความชื้นค่อนข้างสูงจากฝนตกชุกและต่อเนื่อง
จึงส่งผลกระทบต่อราคา ซึ่งรัฐบาลได้พยายามแก้ไขปัญหาเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร
โดยใช้ตลาดนำการผลิตหรือผลิตตามตลาดต้องการ รวมทั้งแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม
และส่งเสริมระบบตลาดออนไลน์ ซึ่งในปี 2561 ภาครัฐ โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กำหนดเป้าหมายให้เป็น “ปีแห่งการยกระดับคน การบริหารจัดการมาตรฐานสินค้าเกษตรสู่เกษตร 4.0”
ที่ได้รับจัดสรรงบประมาณรวม 103,586.6227
ล้านบาท ในจำนวนนี้ มีงานโครงการสนับสนุนนโยบาย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ยกกระดาษ A4) และงานสำคัญอื่นๆ
จำนวน 57,742.1386 ล้านบาท ประกอบด้วย 15 โครงการ/แผนงานสำคัญ ได้แก่
1)
การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ
2) ระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ 3) ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร 4) Zoning by
Agri-Map 5) Smart Farmer 6) พัฒนาสถาบันเกษตรกรรูปแบบประชารัฐ
7) ธนาคารสินค้าเกษตร 8) เกษตรอินทรีย์
9) ส่งเสริมเกษตรทฤษฎีใหม่ 10) จัดระเบียบการประมงให้เป็นมาตรฐาน
11) ขยายศูนย์เมล็ดพันธ์ข้าว 12) ส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าสินค้าและการใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตรทดแทนแรงงาน
13) ตลาดสินค้าเกษตร 14) พัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรสู่มาตรฐาน
(GAP) และ15)
การช่วยเหลือด้านหนี้สินสมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
มีนโยบายขับเคลื่อนการเกษตรเพื่อแก้ปัญหาและกระตุ้นความเป็นอยู่ของเกษตรกรและเศรษฐกิจฐานราก
และช่วยให้รายได้เกษตรกรขยายตัวต่อเนื่อง พร้อมทั้งเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ
เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาคเกษตรในไตรมาสที่ 1 ปี 2561 วงเงิน
33,891.39 ล้านบาท (ร้อยละ 32.72) ไตรมาสที่ 2 จำนวน 23,478.51 ล้านบาท (ร้อยละ 22.67) ไตรมาสที่ 3 จำนวน 22,359.16 ล้านบาท
(ร้อยละ 21.58) และไตรมาสที่ 4 จำนวน 23,857.56
ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 23.03 ซึ่งเชื่อมั่นว่าผลสัมฤทธิ์จะได้รับจากการดำเนินงานตามงบประมาณปี
2561 ซึ่งหากเป็นไปตามแผน
จะช่วยสนับสนุนให้ต้นทุนการผลิตลดลง ผลผลิตเพิ่มขึ้น มีคุณภาพมาตรฐาน
สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ซึ่งส่งผลให้รายได้เกษตรกรเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง.-สำนักข่าวไทย
