กทม.มั่นใจยังสามารถรับมือน้ำในปัจจุบันได้

สำนักการระบายน้ำ 28 ต.ค. – สำนักการระบายน้ำ กทม.แจงสื่อ สยบประเด็นความกังวลต่อสถานการณ์น้ำในโซเชียลมีเดีย


นายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้นายณรงค์ เรืองศรี รองผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร ชี้แจงประเด็นความกังวลต่อสถานการณ์น้ำ เนื่องจากโซเชียลมีเดียจำนวนมากแสดงความคิดเห็นในเชิงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำในขณะนี้ โดยมองว่ามีความเป็นไปได้ที่อาจเกิดสถานการณ์น้ำท่วมเหมือนเมื่อปี 2554 อีกทั้งแสดงความไม่เชื่อมั่นต่อการบริหารจัดการน้ำของภาครัฐ จึงเรียกร้องให้รัฐบาลสรุปสถานการณ์น้ำที่ชัดเจน พร้อมแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ว่าน้ำท่วมหรือไม่ อย่างไร เพื่อให้ประชาชนสามารถเตรียมตัวขนย้ายสิ่งของได้ทันสถานการณ์นั้น โดยประเมินสถานการณ์แล้ว กทม.ยังสามารถรับมือน้ำในปัจจุบันได้

สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร ได้ประเมินสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ จาก 3 องค์ประกอบ ได้แก่ น้ำฝน น้ำเหนือ และน้ำทะเลหนุน ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันของ 3 น้ำ ณ วันที่ 25 ต.ค. 60 เป็นดังนี้ 


1.ข้อมูลจากกรมชลประทาน แจ้งปริมาณน้ำเหนือที่ไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วง อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2,702 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

 2.ระดับน้ำทะเลหนุน โดยเมื่อ 25 ต.ค.60 น้ำทะเลหนุนสูงสุดเมื่อเวลา 09.52 น. ระดับน้ำอยู่ที่ 1.08 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณปากคลองตลาดอยู่ที่ระดับ 1.96 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ยังต่ำกว่าระดับคันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาของกรุงเทพมหานคร ประมาณ 0.84 เมตร ทั้งนี้ ระดับแนวคันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาของกรุงเทพมหานคร มีระดับ 2.80-3.50 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง 

3.สถานการณ์ฝน ปัจจุบันปริมาณฝนรวมในกรุงเทพมหานคร อยู่ที่ 2,167.6 มิลลิเมตร จากรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่านับจากวันที่ 25 ต.ค. 60 ปริมาณฝนจะเริ่มลดลงและเข้าสู่ฤดูหนาวต่อไป จากการประเมินสถานการณ์ทั้ง 3 น้ำ จึงสรุปได้ว่ากรุงเทพมหานครยังสามารถรับมือกับสถานการณ์น้ำที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้ 


ส่วนสภาพพื้นที่ลุ่มต่ำเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วม โดยเฉพาะชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำนั้น กรุงเทพมหานครได้เตรียมการและวางแผนบริหารจัดการน้ำ สร้างระบบป้องกันน้ำท่วมและระบบระบายน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ ได้แก่ 

ก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ ความยาวรวม 77 กิโลเมตร สามารถป้องกันน้ำไหลบ่าจากริมแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าท่วมในพื้นที่ได้ถึงระดับ 3.00 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง หรือรองรับน้ำผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาไม่เกิน 3,000 ลบ.ม./วินาที แต่หากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณมาก ชุมชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ จะได้รับผลกระทบจำนวน 18 ชุมชน ในพื้นที่ 10 เขต รวม 430 หลังคาเรือน ซึ่งกรุงเทพมหานครได้เตรียมการช่วยเหลือในด้านต่างๆ ไว้แล้ว เช่น วางกระสอบทรายในแนวฟันหลอ การสร้างสะพานไม้เป็นทางเดินเข้าออกชุมชน และแจ้งเตือนให้เฝ้าระวัง เป็นต้น 

การป้องกันน้ำท่วมด้านตะวันออกของกรุงเทพมหานคร ได้ก่อสร้างคันกั้นน้ำพระราชดำริ เพื่อป้องกันน้ำไหลจากพื้นที่ด้านตะวันออกเข้าท่วมพื้นที่ชั้นใน ความยาว 72 กิโลเมตร สามารถป้องกันน้ำไหลบ่าจากพื้นที่ด้านนอกได้ที่ระดับความสูง 2.50 – 3.50 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 

การระบายน้ำในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของกรุงเทพมหานครผ่านคลองสายหลัก สำหรับน้ำที่ไหลผ่านจังหวัดนนทบุรีบางส่วนจะไหลเข้าสู่คลองมหาสวัสดิ์และระบายออกสู่แม่น้ำท่าจีน ส่วนน้ำที่ระบายผ่านพื้นที่ของกรุงเทพฯ จะระบายผ่านคลองทวีวัฒนา คลองซอย คลองขุนศรีฯ และคลองควาย และน้ำบางส่วนจะระบายผ่านคลองบางกอกน้อยลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา น้ำส่วนที่เหลือจะระบายลงสู่แก้มลิงคลองสนามชัย – มหาชัย ซึ่งอยู่ทางตอนล่างของพื้นที่และจะระบายสู่ทะเลต่อไป 

ส่วนมาตรการหากเกิดน้ำทะเลหนุนริมแม่น้ำเจ้าพระยาคือ เร่งตรวจสอบความแข็งแรงจุดรั่วซึมของแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย คลองมหาสวัสดิ์ และเรียงกระสอบทรายในบริเวณที่แนวป้องกันน้ำท่วมมีระดับต่ำ ติดตามสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูง และส่งเจ้าหน้าที่ตรวจตราจุดที่คาดว่าจะมีปัญหาน้ำรั่วซึมเข้าท่วมพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตรวจสอบความพร้อมของเครื่องสูบน้ำให้พร้อมทำงานตลอดเวลา รวมถึงดำเนินการขุดลอกคลอง เตรียมความพร้อมสถานีสูบน้ำ เตรียมเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มประสิทธิภาพในพื้นที่จุดเฝ้าระวังมากขึ้น เตรียมความพร้อมหน่วยสนับสนุนช่วยเหลือประชาชน และติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำเพื่อเตรียมความพร้อมในป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ตลอดเวลาด้วย

นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครได้เตรียมความพร้อมแผนเผชิญเหตุฉุกเฉินกรณีน้ำหลากเข้ามาในพื้นที่ เช่น ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ตามจุดที่เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาน้ำท่วม ควบคุมและลดระดับน้ำในคลอง บ่อสูบน้ำ และแก้มลิงให้อยู่ในระดับต่ำ แจ้งเตือนสถานการณ์ฝนตกให้ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานภาคสนามผ่านระบบวิทยุสื่อสาร Trunked Radio แจ้งเตือนสำนักงานเขตผ่านวิทยุสื่อสารเครือข่าย “อัมรินทร์” แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผ่านกลุ่ม Line “เตือนภัยน้ำท่วม กทม.” ส่งหน่วยปฏิบัติการเร่งด่วน (BEST) ประจำจุดเสี่ยงและจุดสำคัญเพื่อเร่งระบายน้ำ และแก้ปัญหาด้านการการจราจร ช่วยอำนวยความสะดวกการจราจร การปิดเส้นทางที่น้ำท่วม ทหารช่วยเหลือประชาชน หากมีระดับน้ำท่วมสูง หากเกิดเหตุน้ำท่วมในพื้นที่จะจัดตั้งศูนย์บูรณาการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมโดยมีผู้อำนวยการเขตพื้นที่เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]