กระทรวงการต่างประเทศ 19 ต.ค.-โฆษกกระทรวงต่างประเทศ เผยไทยพร้อมหนุนเมียนมาฟื้นฟูอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลในรัฐยะไข่ ปรับปรุงโรงพยาบาลเกาะกง เพิ่มประสิทธิภาพการแพทย์
น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ประเทศไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับประเทศเมียนมาฟื้นฟูอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลในรัฐยะไข่ ตามที่เมียนมาร้องขอมา ซึ่งเป็นความร่วมมือตามกรอบทวิภาคีและไตรภาคี ดำเนินการภายใต้กรอบความร่วมมือไทย-ญี่ปุ่น-เมียนมา โดยได้ให้การฝึกอบรมการเพาะเลี้ยงทะเลเจ้าหน้าที่ประมงจากรัฐบาลกลางเมียนมาและรัฐยะไข่ นอกจากนี้ยังจัดฝึกอบรมการเพาะเลี้ยงปลาให้กับเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางและส่วนภูมิภาคของเมียนมา เพื่อนำไปปรับใช้กับการเพาะเลี้ยงปลาในประเทศเมียนมาด้วย
“หลังจากนี้กรมความร่วมมือ กระทรวงการต่างประเทศจะหารือกับกรมการประมง เพื่อพิจารณาปรับปรุงฟื้นฟูศูนย์สาธิตการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลไทย-เมียนมาที่เมืองซิตต่วยในรัฐยะไข่ เพื่อให้เป็นศูนย์เรียนรู้สำหรับเจ้าหน้าที่และเกษตรกรในรัฐยะไข่และในประเทศเมียนมาต่อไป อย่างไรก็ตาม ไทยหวังความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร และส่งเสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประชาชนในรัฐยะไข่” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว
น.ส.บุษฎี กล่าวว่า กรมความร่วมมือระหว่างประเทศยังให้ความร่วมมือเรื่องการปรับปรุงอาคารโรงพยาบาลเกาะกง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการทางการแพทย์ตามคำขอของฝ่ายกัมพูชา ภายใต้แผนงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาไทย-กัมพูชา สาขาสาธารณสุข ระยะ 3 ปี (2560-2562) โดยเมื่อวันที่ 27-28 กันยายนที่ผ่านมา คณะผู้แทนไทยที่นำโดยนายเตช บุนนาค ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทย ฝ่ายบริหาร พร้อมด้วยนางสุภัตรา ไมตรีศรีพิทักษ์ อธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ ผู้แทนสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตราด และเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลจังหวัดตราดได้ลงพื้นที่สำรวจสภาพอาคาร สำรวจอาคารห้องผ่าตัด ห้องถ่ายภาพรังสี ห้องปฏิบัติการโรงพยาบาลเกาะกงในปัจจุบัน และความต้องการในการปรับปรุงอาคารเพิ่มเติมตามคำขอของฝ่ายกัมพูชา
“สภาพอาคารมีความชำรุดทรุดโทรม และทางโรงพยาบาลเกาะกงร้องขอมายังประเทศไทยให้ช่วยปรับปรุงอาคารให้มีห้องฉุกเฉินและห้องผู้ป่วยวิกฤติ เพื่อเพิ่มการบริการทางการแพทย์ให้เหมาะสมกับความต้องการของปัจจุบัน ซึ่งภายหลังการสำรวจ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมมือก่อสร้างอาคารหลังใหม่ เพื่อใช้สำหรับห้องฉุกเฉิน และห้องผู้ป่วยวิกฤติ ปรับปรุงห้องเก็บและจ่ายวัสดุกลางที่ใช้งานอยู่ รวมถึงจัดซื้ออุปกรณ์ที่จัดทำและพัฒนาบุคคลากร เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว.-สำนักข่าวไทย
![](https://imgs.mcot.net/images//2017/10/1508391866092.jpg)