“พล.อ.ฉัตรชัย” มั่นใจน้ำเหนือไม่กระทบกรุงเทพฯ-ปริมณฑล

ทำเนียบฯ 17 ต.ค.-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ แจงรายงานสถานการณ์น้ำต่อนายกฯ เมื่อวานนี้ (16 ต.ค.) มั่นใจน้ำเหนือไม่กระทบกรุงเทพฯ และปริมณฑล


พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ได้นำเสนอสถานการณ์น้ำต่อนายกรัฐมนตรี หลังจากเมื่อวานนี้ (16 ต.ค.) นายกรัฐมนตรีได้เรียกตนและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ดูแลเรื่องนี้มาชี้แจงสถานการณ์ โดยจากที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์อากาศว่าพายุขนุนไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทยแล้ว จึงหมดกังวลเรื่องนี้ไป แต่ประเทศไทยยังมีฝนตกเนื่องมาจากร่องมรสุม ซึ่งเมื่อเวลา 04.00 น. ที่ผ่านมา พบว่าอยู่ประมาณตอนกลางและตอนเหนือของประเทศ จึงทำให้ตอนเหนือยังมีฝนตกอยู่ โดยทางภาคอีสานตอนบน รวมถึงภาคกลางยังมีฝนตกอยู่ ดังนั้นจึงได้สรุปเรื่องการระบายน้ำต่อนายกรัฐมนตรี ได้แก่ ทางภาคอีสาน ซึ่งพบอยู่ 2 เรื่อง คือ ร่องมรสุมดังกล่าวและเขื่อนที่มีความจุน้ำเต็มเขื่อน คือ เขื่อนอุบลรัตน์ ดังนั้นการระบายน้ำของภาคอีสานคือการระบายน้ำจากฝนตกที่เกิดจากร่องมรสุมและระบายน้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์ลงมา โดยผลกระทบจากเขื่อนอุบลรัตน์ลงมาจะกระทบจังหวัดมหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร และลงมาเชื่อมถึงลุ่มน้ำมูล

พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า เรื่องการระบายน้ำอยู่ภายใต้การจัดการของคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำของจังหวัด รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้พูดคุยกันแล้ว โดยการระบายน้ำจะเป็นในลักษณะขั้นบันได จาก 30 ลูกบาศก์เมตร จนถึงปัจจุบันในปริมาณ 46 ลูกบาศก์เมตร และจะสูงสุดที่ประมาณ 54 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งการระบายน้ำเช่นนี้จะส่งผลให้พื้นที่ตามลุ่มน้ำชี ตั้งแต่จังหวัดมหาสารคามลงมา มีปริมาณน้ำที่สูงขึ้นมา จากที่ท่วมอยู่แล้วประมาณ 20-30 เซ็นติเมตร ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดได้รับทราบแนวทางการระบายน้ำเช่นนี้อยู่แล้ว โดยทั้งหมดนี้จะระบายน้ำไปสู่แม่น้ำโขง ซึ่งขณะนี้ได้ให้กรมชลประทานติดตั้งเครื่องสูบน้ำ และผลักดันน้ำเพิ่มเติมที่ปากทางแม่น้ำโขงด้วย ส่วนทางแม่น้ำมูลที่อยู่ทางตอนล่างยังไม่ค่อยมีผลกระทบ


พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวด้วยว่า สำหรับทางด้านภาคเหนือ ในส่วนต้นของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ขณะนี้ได้สั่งปิดการระบายน้ำที่เขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ ตั้งแต่วันที่ 7  ตุลาคมที่ผ่านมา เวลานี้คงจะมีน้ำจากลุ่มแม่น้ำยมเท่านั้นที่ไหลลงมา และด้วยการบริหารจัดการน้ำ คิดเตรียมการไว้ล่วงหน้า จึงได้ใช้พื้นที่แก้มลิงทางธรรมชาติ คือที่บางระกำ ซึ่งขณะนี้ปริมาณน้ำในบางระกำก็เต็มแล้ว และพื้นที่ใกล้เคียงรวม 450,000,000 ลูกบาศก์เมตร แต่ท้ายที่สุด น้ำทั้งหมดจะลงมาที่จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งขณะนี้ปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งนับว่าแตกต่างจากเหตุการณ์เมื่อปี 2554 ที่มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 4,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และเมื่อน้ำมารวมอยู่ที่แม่น้ำเจ้าพระยาในจังหวัดนครสวรรค์แล้ว จะผลักดันน้ำออกทางซ้ายและขวาก่อนที่จะถึงเขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งในส่วนของเขื่อนเจ้าพระยาจะพยายามควบคุมไม่ให้เกิน 2,600 ลูกบาศก์เมตร โดยปัจจุบันนี้มีปริมาณน้ำที่ 2,597 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งน้ำที่ไหลลงมาด้านล่างจนกระทั่งถึงบางไทร จะอยู่ที่เกณฑ์ 2,800 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งถือว่าห่างจากจุดวิกฤติเป็นจำนวนมาก ดังนั้นจะมีผลกระทบตั้งแต่ใต้เขื่อนชัยนาทลงมา คือ จังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา จนถึงจังหวัดปทุมธานี และนนทบุรี โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบส่วนใหญ่จะอยู่นอกคันกันน้ำ ทั้งนี้หากพื้นที่ด้านที่อยู่เหนือจังหวัดนครสวรรค์ขึ้นไปมีปริมาณฝนลดลง ก็จะปรับลดการระบายน้ำลง แต่ก็ต้องดูสถานการณ์วันต่อวัน โดยยืนยันว่าการระบายน้ำสูงสุดในเขื่อนเจ้าพระยาจะไม่ให้เกิน 2,600 ลูกบาศก์เมตร

ส่วนผลกระทบที่จะเกิดในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า เกิดจากเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ฝนตกหนัก ทำให้พื้นที่กรุงเทพฯ มีน้ำที่รอการระบาย แต่ในส่วนของจังหวัดนนทบุรีและปทุมธานี จะมีผลกระทบเรื่องน้ำทะเลหนุนที่ทำให้การระบายน้ำช้าลง ขอยืนยันว่าปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพลมีอยู่ร้อยละ 66 และเขื่อนสิริกิติ์มีอยู่ร้อยละ 80 ดังนั้นหากมีฝนตกในพื้นที่เหนือ ทั้งสองเขื่อนสามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีก จึงยืนยันว่าน้ำจากเหนือจะไม่กระทบต่อพื้นที่กรุงเทพฯ เพราะทางด้านเหนือจะมีเพียงร่องความกดอากาศเท่านั้น ปริมาณฝนมีไม่มาก ทั้งสองเขื่อนจึงสามารถรองรับน้ำได้ ไม่ปล่อยลงมา ทั้งนี้ หากฝนตกอย่างหนักในพื้นที่ด้านล่าง จะใช้พื้นที่กักเก็บน้ำใต้เขื่อนเจ้าพระยาทั้งหมด 12 ทุ่ง คล้ายกับบางระกำ ซึ่งขณะนี้กักเก็บน้ำอยู่ที่ร้อยละ 70 จึงยังสามารถรองรับน้ำได้อีกร้อยละ 30 หรือกว่า 300 ล้านลูกบาศก์เมตร

“ขณะที่มาตรการการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมนั้น นายกรัฐมนตรีได้สั่งการแล้วว่าให้ทุกส่วนราชการเข้าไปดูแลพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะพื้นที่เกษตรที่กระทรวงเกษตรฯ ได้ของบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาล เพื่อเข้าไปดูแล ส่วนพื้นที่กรุงเทพฯ หากในวันนี้มีฝนตกอีก ก็เป็นหน้าที่ของกรุงเทพมหานครในการระบายน้ำ แต่ย้ำว่าน้ำเหนือไม่มีผลกระทบต่อการระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร” พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]