ทำเนียบฯ 17 ต.ค.- รองอธิบดีกรมชลประทาน เผยสถานการณ์แม่น้ำเจ้าพระยา ยังอยู่ในปริมาณที่ดูแลได้ แต่ต้องเฝ้าระวังปริมาณน้ำฝนอย่างใกล้ชิด นายกรัฐมนตรี สั่งหน่วยงานเกี่ยวข้อง เร่งสร้างความเข้าใจประชาชนรับมือสถานการณ์น้ำ ให้รู้ระยะเวลาผลกระทบที่ได้รับจากน้ำท่วม
นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงสถานการณ์น้ำในภาพรวม ว่า ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนบน ทั้งเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ ตอนนี้ยังคงปิดเขื่อน ส่วนเขื่อนแควน้อยลดการระบายน้ำ ปริมาณ น้ำ ทั้งแม่น้ำปิง วัง ยม และน่าน นั้น ยังมีพื้นที่แก้มลิง และพื้นที่ลุ่มต่ำ ที่รองรับน้ำได้ โดยสถานีวัดน้ำที่จังหวัดนครสวรรค์ นั้น ขณะนี้ อยู่ที่ 2,800 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งน้อยกว่าปี 2554 ที่เกิดน้ำท่วมใหญ่ซึ่งมีปริมาณการไหลของน้ำที่ 5,400 ลบ.ม.ต่อวินาที ทั้งยังมีบึงบอระเพ็ดหน่วงน้ำไว้ด้วย สำหรับเขื่อนเจ้าพระยา นั้นมี ประมาณ 2,598 ลบ.ม.ต่อวินาที น้อยกว่า ปี 2554 ที่อยู่ที่ 3,600 ลบ.ม.ต่อวินาที ส่วนจุดที่จะส่งผลกับกรุงเทพมหานคร คือที่ บางไทรซึ่งมีปริมาณการไหลของน้ำ ที่ 2,600 ลบ.ม.ต่อวินาที น้อยกว่าค่าวิกฤติที่ 3,500 ลบ.ม.ต่อวินาที และน้อยกว่าปี 2554 ที่อยู่ที่ 3,800 ลบ.ม.ต่อวินาที ดังนั้น จึงยังอยู่ในปริมาณที่สามารถดูแลได้ แต่ต้องเฝ้าระวังปริมาณน้ำฝนอย่างใกล้ชิด เพราะจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้น้ำท่วมสูง
นายทองเปลว กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงเรื่องการรับรู้ของประชาชน กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสื่อสาร ให้เกิดความชัดเจน ว่า พื้นที่ใดจะได้รับผลกระทบหรือไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม และหากท่วมต้องใช้ระยะเวลาเท่าใด ต้องแจ้งให้ประชาชนทราบเพื่อให้ป้องกัน.-สำนักข่าวไทย