ทำเนียบฯ 17 ต.ค.-รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้สถานการณ์ชายแดนใต้ ปัญหายังไม่หมดในเรื่องของคนที่ยังเข้าใจไม่เหมือนกัน กำชับเจ้าหน้าที่ติดตามการข่าวให้ครอบคลุมผู้ก่อเหตุรุนแรง
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะช่วงใกล้ถึงวันครบรอบเหตุการณ์ตากใบในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ ว่า งานของผู้แทนพิเศษรัฐบาลจะครอบคลุมดูแลงานของส่วนราชการต่าง ๆ ที่ปฏิบัติ ทั้งเรื่องงานด้านการรักษาความมั่นคง การรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นภารกิจหลักแรกของคณะกรรมการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ส่วนหน้า (คปต.) ดังนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องมีหน่วยงานหลักที่ต้องรับผิดชอบ ทั้งทหารและตำรวจในพื้นที่พยายามดูในเรื่องการข่าว
พล.อ.อุดมเดช กล่าวอีกว่า ส่วนเหตุคนร้ายโจมตีจุดตรวจบ้านตาบา อ.ตากใบ จ.นราธิวาส และเหตุลอบวางระเบิดเสาไฟฟ้าใน อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ต้องดูในรายละเอียด ซึ่งเจ้าหน้าที่อาจจะถูกเกาะติดเกินไปหรือไม่ เพราะอยู่กับที่ ก็ต้องมีการระวังป้องกันภายในโดยรอบในพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งเป็นเรื่องของทางยุทธวิธี โดยตนได้ให้คำแนะนำไปแล้วว่าควรต้องให้ความระมัดระวัง และงานด้านการข่าวที่ต้องติดตามครอบคลุมผู้ก่อเหตุรุนแรง เจ้าหน้าที่ก็ดำเนินการอยู่ ขอยืนยันว่าเหตุการณ์ดีขึ้น ความถี่เกิดขึ้นน้อยลง และเจ้าหน้าที่พยายามดูแลดีแล้ว แต่เหตุการณ์ย่อมอาจเกิดขึ้นได้บ้าง เพราะปัญหายังไม่หมดในเรื่องของคนที่ยังเข้าใจไม่เหมือนกัน ซึ่งจะต้องควบคุมและปรับให้ได้ โดยทุก ๆ ทางก็เร่งดำเนินการอยู่
“รัฐบาลมีความห่วงใย และนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ผู้แทนพิเศษลงไปกระตุ้นในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงการทำแผนปฏิบัติการและแผนงานโครงการของปี 2561 ซึ่งได้เริ่มทำแล้ว แต่จะต้องนำมาขมวดเข้าด้วยกัน เพื่อให้เสร็จภายในวันที่ 19 ตุลาคมนี้ เพื่อให้ในปี 2561 แผนงานมีความชัดเจนเรื่องการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ต่อเนื่องจากโรดแมปปี 2560 ว่าจะมีอะไรบ้างที่ต้องทำ เพื่อช่วยหน่วยราชการทุกส่วน โดยขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกส่วน เหตุการณ์มีอยู่บ้าง ก็ต้องแก้ไขกันต่อไป” พล.อ.อุดเดช กล่าว.-สำนักข่าวไทย