ตลท. 16 ต.ค. – ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเดือนตุลาคมร้อนแรงมาก สูงสุดในรอบ 2 ปี 9 เดือน ปัจจัยหนุนเงินทุนไหลเข้า-การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
นายสันติ กีระนันท์ ผู้แทนสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเดือนตุลาคม 2560 ซึ่งสะท้อนดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า คือ เดือนธันวาคม 2560 อยู่ที่ 162.63 ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 31.02 จากเดือนที่ผ่านมาที่ 124.13 อยู่ในเกณฑ์ร้อนแรงมาก ( Very Bullish ) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี 9 เดือน ตั้งแต่มีการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเมื่อเดือนมกราคม 2558
สำหรับปัจจัยสนับสนุนมาจากเงินทุนต่างประเทศไหลเข้าและความเชื่อมั่นจากตัวเลขการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะการส่งออกและการท่องเที่ยว ส่งผลให้ไตรมาส 3/2560 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยของนักลงทุนต่างชาติ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนร้อยละ 22.57 ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างประเทศอยู่ในระดับภาวะร้องแรงมากที่ 180 เช่นเดียวกับกลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์อยู่ที่ 175 สำหรับหมวดธุรกิจที่น่าสนใจลงทุนมากที่สุด คือ กลุ่มท่องเที่ยว ส่วนกลุ่มที่ไม่น่าสนใจ คือ กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกยังมีทิศทางปรับขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากสภาพคล่องตลาดโลกในช่วง 1-2 ปียังท่วมท้น แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะเริ่มลดงบดุลลง แต่ยังมีสภาพคล่องจากธนาคารกลางญี่ปุ่นและยุโรปที่ยังอีดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นไทยเริ่มแพงกว่าหลายประเทศในอาเซียน เนื่องจากดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมามาก ดังนั้น ทิศทางหุ้นไทยในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ดัชนีมีแนวโน้มปรับขึ้นไม่มาก โดยทิศทางระยะต่อไปขึ้นอยู่กับแนวโน้มเศรษฐกิจเป็นหลัก
ด้านนายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทาลิส จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปี 2561 ยังมีแนวโน้มปรับขึ้น โดยกรอบการเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 1,600-1,900 จุด ระดับอัตราราคาต่อกำไรสุทธิหรือพีอีเรโช ที่ 15-18 เท่า โดยคาดกำไรบริษัทจดทะเบียนขยายตัวร้อยละ 10 หรือประมาณ 110 บาทต่อหุ้น โดยให้จับตาความตึงเครียดคาบสมุทรเกาหลีระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงที่ยังประเมินได้ยาก ดังนั้น แนะนำให้นักลงทุนเลือกลงทุนในหุ้นที่มีกำไรเติบโตระยะยาว .- สำนักข่าวไทย