กรุงเทพฯ 9 ต.ค. – กรมบัญชีกลางผ่อนคลายเงื่อนไขการจัดซื้อยาไม่เกิน 500,000 บาท จัดซื้อก่อนแล้วนำมาบันทึกในระบบ e-GP เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐ
นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ถือเป็นการปฏิรูปการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐของไทยให้มีมาตรฐานสากล ป้องกันปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับสาธารณชน โดยยึดหลัก 4 ประการ คือ คุ้มค่า โปร่งใส มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และตรวจสอบได้ ที่สำคัญเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบและป้องกัน
ทั้งนี้ การทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ หลังจากมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2560 ระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ (e-GP) อาจจะมีความไม่ชัดเจนบางประการเกี่ยวกับรายละเอียด และวิธีปฏิบัติงานต่าง ๆ เนื่องจากเป็นเรื่องใหม่ที่เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐทุกภาคส่วนต้องศึกษาทำความเข้าใจเรื่องระบบ e-GP กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง โดยที่ผ่านมากรมบัญชีกลางเร่งเดินหน้าประชาสัมพันธ์และเผยแพร่เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างฯ ให้กับทุกภาคส่วนอย่างกว้างขวาง
นอกจากนี้ เพื่อรับทราบปัญหาและหาแนวทางแก้ไขเกี่ยวกับ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ กรมบัญชีกลางได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ กรณีการจัดซื้อยา กรมบัญชีกลางได้ประชุมร่วมกับโรงพยาบาลกลุ่มสถาบันแพทย์ศาสตร์แห่งประเทศไทย (UHosNet) กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อกำหนดกรอบแนวทางที่มีประสิทธิภาพและมีความเหมาะสมต่อการจัดซื้อยาของโรงพยาบาลแล้ว
อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวเพิ่มเติมว่า ข้อสรุปเบื้องต้นเกี่ยวกับการจัดซื้อยาของโรงพยาบาล กรมบัญชีกลางได้ผ่อนคลายให้สามารถดำเนินการจัดซื้อยาที่มีวงเงินไม่เกิน 500,000 บาทต่อครั้ง ด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง ซึ่งสามารถจัดซื้อยาก่อนแล้วค่อยนำผลการจัดซื้อมาบันทึกข้อมูลในระบบ e-GP ภายหลัง โดยเริ่มใช้เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2560 การผ่อนคลายกฎระเบียบดังกล่าว เพื่อให้โรงพยาบาลสามารถจัดซื้อยาทันต่อความต้องการใช้งาน และเกิดประโยชน์ต่อประชาชนที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ทั้งนี้ จะเร่งพัฒนาระบบ e-GP ให้สามารถใช้งานง่าย สะดวก รวดเร็วมากขึ้น เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐมากที่สุด.-สำนักข่าวไทย