กรุงเทพฯ 9 ต.ค. – อธิบดีกรมวิชาการเกษตรย้ำกฎหมายคุ้มครองพันธุ์พืชฉบับใหม่ เกษตรกรได้รับประโยชน์ สามารถเก็บเมล็ดพันธุ์ไปปลูกได้
นายสุวิทย์ ชัยเกียรติยศ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวถึงการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายคุ้มครองพันธุ์พืชที่กำลังเป็นประเด็นขณะนี้ ว่า อาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดและการสื่อสารที่ไม่ตรงกัน โดยขอย้ำว่าการปรับแก้กฎหมายนี้ยึดเกษตรกรเป็นหลัก เกษตรกรไม่เสียผลประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งการปรับแก้กฎหมายนี้เกษตรกรยังคงสามารถเก็บเมล็ดพันธุ์ไปปลูกในฤดูกาลต่อไปในพื้นที่ของตนเองได้ โดยไม่มีโทษใด ๆ ทั้งสิ้น
ส่วนการขยายการคุ้มครองนั้น หมายถึงการขยายความคุ้มครองไปถึงเฉพาะผลผลิต หรือผลิตภัณฑ์ ที่เกิดจากส่วนขยายพันธุ์ที่ได้มาโดยมิชอบเท่านั้น แต่หากส่วนขยายพันธุ์ได้มาอย่างถูกต้องแล้ว ผู้ผลิตก็มีสิทธิในผลิตผลและผลิตภัณฑ์นั้น เพื่อป้องกันการใช้ประโยชน์จากส่วนขยายพันธุ์ที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้อง โดยขณะนี้กรมวิชาการเกษตรกำลังอยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองพันธุ์พืชทางเว็บไซต์ เพื่อให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นประกอบการเสนอต่อกระทรวงฯ และ ครม.ตามลำดับต่อไป
นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กล่าวถึงสถานการณ์ปาล์มน้ำมัน ว่า ปี 2560 คาดว่าจะมีผลผลิตปาล์มน้ำมันโลกอยู่ที่ 62.32 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่มีจำนวน 58.83 ล้านตัน ร้อยละ 5.93 นอกจากนี้ จากการคาดการณ์ของ สศก.พบว่าปี 2560 มีพื้นที่ปลูกปาล์มที่ให้ผลผลิต 4.84 ล้านไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่มีจำนวน 4.56 ล้านไร่ ร้อยละ 6.14 อย่างไรก็ตาม คาดว่าราคาปาล์มจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเฉลี่ยกิโลกรัม 4.20 บาท เนื่องจากไตรมาส 3 และ 4 จะมีผลผลิตออกสู่ตลาดลดลงและสตอกน้ำมันปาล์มของไทยมีแนวโน้มลดลง
นายวิณะโรจน์ กล่าวถึงร่าง พ.ร.บ.ปาล์มน้ำมัน ที่ ครม.เห็นชอบในหลักการและร่างนี้กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานกฤษฎีกาด้วยว่าจะส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันให้มีความยั่งยืนทางเศรษฐกิจและมีศักยภาพในการแข่งขันได้.-สำนักข่าวไทย