กรุงเทพฯ 2 ต.ค.- กรมเชื้อเพลิงฯ
แนะ ปตท.ซึ่งตกลงซื้อก๊าซฯโมซัมบิก ขาย 2 ตลาดทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ
เพื่อลดความเสี่ยงไทยใช้ก๊าซลดลง
หลังแนวโน้มการผลิตไฟฟ้าเชื้อเพลิงฟอสซิลอาจลดลงหลังเกิดการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีใหม่และการผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เองมากขึ้น
นายวีระศักดิ์ พึ่งรัศมี
อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า ในขณะนี้ กระทรวงพลังงาน กำลังปรับ 5
แผนด้านพลังงาน โดยในส่วนของการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี ) จนถึงปี 2579 จะลดลงจากแผนเดิมที่ประมาณว่าจะต้องนำเข้ารวม
32 ล้านตัน/ปีหรือไม่ กำลังดูว่ากรอบของแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าระยะยาว (พีดีพี)
จะปรับอย่างไร ซึ่งทราบว่า กรอบของพีดีพี
จะเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในเร็วๆนี้
โดยยอมรับว่า การนำเข้าจะได้รับผลกระทบจากเทคโนโลยีใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
จนทำให้เกิดการผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เองมากขึ้น
และยังขึ้นกับการพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมในประเทศจะสามารถเปิดประมูลได้รวดเร็วเพียงใด
“การนำเข้าแอลเอ็นจีระยะยาวจะลดลงกว่าแผนหรือไม่นั้น
ต้องรอดูแผนพีดีพี โดยในส่วนของ ปตท.ที่เตรียมทำสัญญาระยะยาวนำเข้าแอลเอ็นจีจากประเทศโมซัมบิก
ก็ขอเสนอแนะว่า ควรทำสัญาในลักษณะที่เปิดกว้าง
เพื่อการจำหน่ายในตลาดโลกและการนำเข้ามาใช้ในไทย
เพื่อลดความเสี่ยงความไม่แน่นอนในอนาคต” นายวีระศักดิ์ กล่าว
นายวีระศักดิ์ ยังกล่าวด้วยว่า
ในเร็วๆนี้จะขอเข้าพบ กับ บมจ.บางจากฯ และ บริษัทพลังโสภณ
เพื่อเชิญชวนให้ร่วมประมูลแหล่ง “เอราวัณ-บงกช”
โดยจากการเชิญชวนหลายบริษัทก่อนหน้านี้ทาง Mubadala Petroleum(MP) จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ยืนยันว่าจะเข้าร่วมประมูลแต่ก็ต้องการหาผู้ร่วมทุนในไทยด้วย ส่วนโมเอโกะ
จากญี่ปุ่นนั้น ก็พร้อมที่จะร่วมทุนกับพันธมิตรเดิมในการเข้าประมูล
นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท
ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)(RATCH) เปิดเผยว่าในปีนี้บริษัทจะมีความคืบหน้าการการเจรจากซื้อกิจการธุรกิจไฟฟ้าเพิ่มเติมอีก
1 – 2 โครงการและบริษัทมีความพร้อมที่จะยื่นโครงการรับซื้อไฟฟ้า แบบ SPP
Hybrid Firm ที่รัฐจะเปิดรับซื้อจำนวน300เมกะวัตต์
แต่ยังไม่สามารถระบุว่าจะยื่นเสนอกี่โครงการ ส่วนผลการดำเนินงานในปี 2560 น่าจะเกินกว่าเป้าที่วางไว้ โดยครึ่งปีแรกได้เกินเป้าหมายแล้ว
โดยมีกำไรสุทธิ 3.55 พันล้านบาท.-สำนักข่าวไทย