ภูมิภาค 28 ก.ย.- ขรก.-ประชาชนชาวอุทัยธานีร่วมน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณรัชกาลที่ 6 พระราชทานธงชาติไทย จากปฐมเหตุธงช้าง ขณะที่อีกหลายจังหวัดร่วมฉลอง 100 ปี ธงชาติไทย
นายไมตรี ไตรติลานันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี พร้อมข้าราชการทุกส่วนงาน นักเรียนนักศึกษาและประชาชนร่วมกันเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาและร้องเพลงชาติ บริเวณหน้าเสาธง ศาลากลางจังหวัดอุทัยธานี เนื่องในวันพระราชทานธงชาติไทยและครบ 100 ปี ธงชาติไทย จังหวัดอุทัยธานี พร้อมจัดนิทรรศการวันพระราชทานธงชาติไทย เผยแพร่ประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับธงชาติไทยตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน โดยจังหวัดอุทัยธานีเป็นปฐมเหตุเปลี่ยนเป็นธงไตรรงค์
เมื่อครั้งนั้นพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) เสด็จประภาสต้น พสกนิกรชาวอุทัยธานีมาเฝ้ารับเสด็จและประดับธงช้างตามบ้านเรือน แต่มีรายหนึ่งได้ประดับกลับหัว ต่อมาได้มีพระราชประสงค์เปลี่ยนธงช้างเป็นธงไตรรงค์มาถึงปัจจุบัน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12-17 ก.ย.ที่ผ่านมา จังหวัดยังได้จัดงานฉลอง 100 ปี ธงชาติไทย….อุทัยธานี ณ ลานสะแกกรัง เพื่อน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และยังมีกิจกรรมการเสวนา “ปฐมเหตุเปลี่ยนธงช้างเป็นธงไตรรงค์ ประวัติธงชาติไทย และ รอยอู่ไทยในอดีต” ที่วิทยาลัยเทคนิคอุทัยธานี จากผู้ทรงคุณวุฒิหลายท่าน
นอกจากนี้ อีกหลายจังหวัดจัดกิจกรรมเช่นกัน ในพิธีครบ 100 ปี วันพระราชทานธงชาติไทย อย่างที่ จ.ชลบุรี พลเรือตรีเดชดล ภู่สาระ รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 เป็นประธานกล่าวรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานธงไตรรงค์เป็นธงชาติไทย จากนั้นร่วมกันร้องเพลงชาติไทยและเพลงดอกประดู่ รวมถึงหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ค่ายกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ อ.สัตหีบ นำโดย พลเรือตรีกล้าหาญ เพ็ชรมีศรี รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน
ที่ จ.สระบุรี นายบัณฑิตย์ เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชจังหวัด นำข้าราชการประชาชนร่วมร้องเพลงชาติและเชิญธงขึ้นสู่ยอดเสาหน้าศาลากลางจังหวัดสระบุรี ส่วนนายกล้าณรงค์ พงษ์เจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมข้าราชการพลเรือนร่วมรำลึกวันพระราชทานธงชาติไทย ครบ 100 ปี ที่หน้าศาลากลางจังหวัด เช่นเดียวกันนายอนุกูล ตังคณานุกูลชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานเชิญธงชาติไทยสู่ยอดเสาและร้องเพลงชาติร่วมกับประชาชนทุกภาคส่วน รวมทั้งที่จังหวัดอ่างทอง มหาสารคาม ภูเก็ต และนราธิวาส.-สำนักข่าวไทย
