กนง.เพิ่มจีดีพีปีนี้โตร้อยละ 3.8 พร้อมคงดอกเบี้ยร้อยละ 1.5

กรุงเทพฯ 27 ก.ย. – กนง.ปรับเพิ่มจีดีพีปีนี้โตร้อยละ 3.8 ผลบวกจากส่งออกพุ่งโตร้อยละ 8 พร้อมคงดอกเบี้ยที่ร้อยละ 1.50 


นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. กล่าวว่า ที่ประชุมกนง. ได้ปรับเพิ่มอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ปีนี้เติบโตร้อยละ 3.8 จากเดิมร้อยละ 3.5 และปรับเพิ่มจีดีพีปี 2561  เติบโตร้อยละ 3.8 จากเดิมร้อยละ 3.7  เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวชัดเจนขึ้นจากการส่งออกสินค้าและบริการที่ปรับขึ้น โดยการส่งออกขยายตัวเพิ่มเป็นร้อยละ 8  จากเดิมร้อยละ 5 ในปีนี้ และ ขยายตัวร้อยละ 3.2 จากเดิมร้อยละ 1.7 ในปี 2561 ซึ่งเป็นการขยายตัวตามการเติบโตของเศรษฐกิจโลกแม้ว่าเงินบาทเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นร้อยละ 7.9 แต่หากเทียบกับสกุลเงินคู่ค้าและหักเงินเฟ้อ เงินบาทแข็งค่าขึ้นเพียงร้อยละ 2 ซึ่งความสามารถทางการแข่งขันของไทยยังมีอันดับที่ดีขึ้น อยู่ที่ 32 จากอันดับ 34 จากการอันดับของ World Economic Forum 

นอกจากนี้ที่ประชุมกนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.50 ต่อปี ซึ่งเป็นการคงดอกเบี้ยต่อเนื่องมาแล้ว 2 ปี 5 เดือน นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2558 โดยการประชุมครั้งนี้กรรมการ 1 ท่าน ลาประชุม ซึ่งกนง. มองว่าอัตราดอกเบี้ยในระดับปัจจุบันอยู่ในระดับที่ผ่อนคลายและสนับสนุนต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจและเอื้อให้เงินเฟ้อทั่วไปกลับไปสู่เป้าหมายได้ โดยคาดว่าเงินเฟ้อจะกลับสู่เป้าหมายในกลางปี 2561 และปรับเงินเฟ้อทั่วไปปีนี้อยู่ที่ร้อยละ 0.6 และ ร้อยละ 1.2 ในปีหน้า 


“กนง. เห็นว่าดอกเบี้ยที่ร้อยละ 1.50 เป็นระดับที่เอื้อต่อการขยายตัวเศรษฐกิจ เห็นได้จากอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจปรับสูงขึ้นเกินกว่าที่คาด ซึ่งกนง. มองว่าหากดอกเบี้ยต่ำเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดพฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น อาจจะเป็นความเสี่ยงค่อเสถียรภาพเศรษฐกิจได้” นายจาตุรงษ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม กนง. ยังติดตามการลงทุนภาครัฐที่ชะลอลงไปบ้าง โดยปรับการลงทุนภาครัฐขยายตัวร้อยละ 5 จากเดิมร้อยละ 7.7 แต่คาดว่าการลงทุนภาครัฐจะเร่งขึ้นในปีหน้าขยายตัวร้อยละ 9.8 และเห็นว่าการบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป ตามกำลังซื้อที่ยังไม่เข้มแข็ง โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยยังฟื้นตัวไม่ชัดเจน พร้อมติดตามความเสี่ยงจากผลกระทบของมาตรการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวที่อาจมากกว่าคาด  แต่เชื่อว่าภาครัฐจะสามารถบริหารจัดการได้.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

เปิดหีบเลือกตั้ง อบจ. ครึ่งวันแรก ภาพรวมเรียบร้อย

เลขาธิการ กกต. แถลงเปิดหีบเลือกตั้ง อบจ. ช่วงเช้าภาพรวมเรียบร้อย เชิญชวนประชาชนไปใช้สิทธิถึง 17.00 น. ขอบริษัทเอกชน-นายจ้าง อำนวยความสะดวกลูกจ้างออกไปลงคะแนน ย้ำห้ามถ่ายรูปบัตรที่ลงคะแนนแล้ว ระวังโทษอาญา ยืนยันคืนหมาหอนไม่มีกระทำผิดกฎหมาย

คึกคัก! เลือกตั้ง อบจ.เชียงใหม่ ปชช.ทยอยใช้สิทธิ

ประชาชนทยอยใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ.เชียงใหม่ คึกคัก ขณะที่ประธาน กกต. ยืนยันคืนหมาหอนยังไม่พบสิ่งผิดปกติ คาดชาวเชียงใหม่ใช้สิทธิสูงกว่าครั้งที่แล้ว

นายกฯ เตรียมเยือนจีน 5-8 ก.พ.นี้ หารือ “ปธน.สี จิ้นผิง”

“นายกฯ แพทองธาร” เตรียมเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ 5-8 ก.พ.นี้ พร้อมหารือ “ปธน.สี จิ้นผิง” แก้ปัญหาทุกมิติ สานสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน โอกาสครบรอบ 50 ปี ร่วมลงนามความตกลงฯ นับสิบฉบับ ก่อนบินต่อ “ฮาร์บิน” สนับสนุนนักกีฬาไทยใน “เอเชียนเกมส์ ฤดูหนาว” ตามคำเชิญของรัฐบาลจีน