รัฐสภา 24 ก.ย. – นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงข้อกังวลที่หากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ตีตกร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. หลังพ้นกรอบการทำงานของ กรธ. ไปแล้ว 240 วัน โดยย้ำว่า กรธ. จะต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่จนกว่ากฎหมายลูกทั้งหมดมีผลบังคับใช้ และ หาก สนช. ตีตกร่างกฎหมายดังกล่าว กรธ. ก็จะนำประเด็นที่ สนช. ไม่เห็นด้วยมาปรับแก้ โดยไม่จำเป็นต้องยกร่างขึ้นใหม่ เว้นแต่ว่าแก้แล้ว จะไม่ถูกใจ สนช. ด้วยกันเอง
นายมีชัย ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ทั้ง 10 ฉบับ ว่าขณะนี้ เสร็จสิ้นเกือบทั้งหมดแล้ว เหลือเพียง 3 ฉบับ เท่านั้น คือ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ที่ กรธ. กำลังพิจารณาอยู่ ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ซึ่ง กรธ. จะต้องใช้เวลาในการพิจารณา ส่วนความเป็นไปได้ที่จะเชิญ สนช. เข้ามาร่วมพิจารณากฎหมายกับ กรธ. เพื่อลดขั้นตอนการตั้งกรรมาธิการร่วม หลังกฎหมายผ่านวาระ 3 จาก สนช. นั้น นายมีชัย ระบุว่า โดยปกติ สนช. จะพิจารณาคู่ขนานกับ กรธ. อยู่แล้ว เมื่อเสร็จสิ้นก็จะมีส่งความเห็นมายัง กรธ.
“กรธ.จะต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่จนกว่ากฎหมายลูกทั้งหมดมีผลบังคับใช้ และกรธ. ไม่สามารถทำลวก ๆ ได้ ไม่ว่าอย่างไร กรธ. ก็จะต้องรีบดำเนินการให้เสร็จสิ้น หากไม่ทันก็จะต้องนัดประชุมเพิ่มวันเสาร์และวันอาทิตย์” นายชัย กล่าว
นายมีชัย ยังเปิดเผยถึงความคืบหน้าการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ในประเด็น สถานะของ ป.ป.ช. ว่า ยังไม่มีการพูดถึงแต่เบื้องต้นยังคงย้ำจุดยืนเดิม ที่ได้มีการหารือในการประชุมนอกสถานที่ถึงแนวทางรีเซ็ต กรรมการ ป.ป.ช. ที่ขาดคุณสมบัติพ้นจากตำแหน่ง หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนกรณีที่พลตำรวจเอกวัชรพล ประสานราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. ยอมรับอยากให้ ป.ป.ช. อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อจนครบวาระ เพราะ ป.ป.ช. มีลักษณะการทำงานพิเศษ ต้องใช้บุคคลที่มีความสามารถนั้น นายมีชัย ยืนยันว่า ต้องทำตามหลักการเดิม เว้นแต่จะมีกรณีพิเศษอย่าง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ที่ กรธ. เสนอให้เซตซีโร่ทั้งคณะ.-สำนักข่าวไทย