ภูมิภาค 18 ก.ย. – แม้พายุดีเปรสชั่นทกซูรีอ่อนกำลังลงแล้ว แต่ยังส่งผลให้พื้นที่ภาคเหนือและอีสานมีฝนตกหนักต่อเนื่อง จนน้ำป่าหลากเข้าท่วม หนักสุดที่ จ.พิษณุโลก และชัยภูมิ
ระดับน้ำในคลองเนินกุ่ม อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ซึ่งรับน้ำมาจากลุ่มน้ำคลองชมพู อ.เนินมะปราง และเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำป่าหลากเข้าท่วมบ้านเรือน วัด โรงเรียน สถานที่ราชการ ย่านการค้า และพื้นที่การเกษตร โดยเฉพาะโรงเรียนบ้านท่ายาง หมู่ 1 ต้องสั่งปิดเรียน ร้านค้าเร่งกั้นกระสอบทราย หวั่นน้ำเข้าไปภายในร้าน
ขณะที่ชาวบ้านหมู่ 5 บ้านทางลัด ต.วังพิกุล อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ต้องช่วยกันขนย้ายสุกรหนีน้ำท่วม เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำวังทองเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับพนังริมตลิ่งแม่น้ำวังทองพังเสียหาย ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมฟาร์มสุกรกว่า 200 ตัว จมน้ำตาย 50 ตัว ขณะที่บางส่วนถูกน้ำพัดสูญหาย ชาวบ้านช่วยกันจับคืนมาได้เพียง 60 ตัว
ส่วนที่ จ.ชัยภูมิ น้ำท่วมหนักที่สุดในรอบปีและทวีความรุนแรง น้ำจากเขื่อนลำปะทาวไหลลงลำห้วยประทาว ห่างตัวเมืองชัยภูมิและย่านธุรกิจ ใจกลางเมืองถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย แม้ทางราชการเร่งสูบน้ำออกจากตัวเมืองตลอด 24 ชั่วโมง แต่ระดับน้ำไม่ลดลง เพราะน้ำป่าจากลำห้วยเสวไหลเข้าตัวเมืองอย่างรวดเร็ว บ้านเรือน ตลาดสด สถานที่ราชการ โดยเฉพาะรอบอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาแล ถูกน้ำท่วมสูง โรงเรียน 3 แห่ง โดยเฉพาะโรงเรียนชัยภูมิภักดีชุมพล น้ำหลากเข้าท่วมโต๊ะเรียน อุปกรณ์การเรียนการสอนจมอยู่ใต้น้ำ เบื้องต้นนายปราโมทย์ ภูมิพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 30 รับทราบปัญหา เร่งนำเสนอต้นสังกัด เพื่อเตรียมการช่วยเหลือแต่ละโรงเรียน. – สำนักข่าวไทย