เตือน ปตท.-3 การไฟฟ้ารับเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงการใช้ฟอสซิลลดลง

กรุงเทพฯ 14 ก.ย.-ก.พลังงานส่งสัญญาณเตือน ปตท.- 3 การไฟฟ้า ปรับปรุงการทำงานรับเทคโนโลยีใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทน การผลิตไฟฟ้าที่พึ่งพาตัวเองมากขึ้น เตือนเบื้องต้นอาจส่งผลค่าไฟฟ้าแพงขึ้นบ้าง ศึกษาแผนรองรับผลกระทบอนาคต รวมไปถึงเปิดเสรีสายส่ง เปิดเอกชนทำ MICRO GRID


พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าว ปาฐกถาหัวข้อ “ทิศทางและนวัตกรรมด้านพลังงานของประเทศสู่พลังงาน 4.0″ว่า กระทรวงพลังงาน กำลังเร่งดำเนินการ และเชิญชวนให้ผู้ประกอบการเข้าร่วมประมูล โดยประเด็นหลัก คือ ความต่อเนื่องของการผลิต ไม่ว่าจะเป็นรายเก่าหรือรายใหม่  โดยยุทธศาสตร์ของกระทรวงพลังงาน ใน 20 ปีข้างหน้า คือ สร้างความมั่นคงทางพลังงาน ราคาเป็นธรรม ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่น้อยที่สุด และพัฒนาบุคลากร ซึ่งภาคพลังงาน มีส่วนร่วมในการเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศ โดยการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และการเพิ่ม GDP ของประเทศ เมื่อนักลงทุนต่างประเทศเข้ามา โดยเฉพาะในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก( EEC) ก็ต้องให้ความสำคัญในความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน

“ก.พลังงานทบทวนยุทธศาสตร์ประจำปี2561 ทั้งเพิ่มขีดแข่งขันของประเทศ การขับเคลื่อนธุรกิจพลังงานจะต้องมียุทธศาสตร์เปรียบเทียบกับจีดีพีที่ปัจจุบันไทยนำเข้าพลังงานคิดเป็น 6%ของจีดีพี และมีการลงทุนด้านพลังงานคิดเป็นมูลค่า 5-6แสนล้านบาท และการพัฒนาบุคลากร จะต้องกำหนดทั้งยุทธศาสตร์เก่า และยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนงานใหม่ เพื่อให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีแห่งอนาคต disruptive technology” พล.อ.อนันตพรกล่าว


พล.อ.อนันตพร กล่าวด้วยว่า เทคโนโลยีผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่พัฒนาขึ้น ทำให้รูปแบบการสร้างโรงไฟฟ้าในอนาคตจะเปลี่ยนไป เป็นโรงไฟฟ้าขนาดเล็กที่ใช้เชื้อเพลิงสะอาด มากยิ่งขึ้น มีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ โดยเฉพาะโซลาร์รูฟท็อป มากขึ้น เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายจาก อย่างไรก็ตาม  การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ยังจำเป็นต้องเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าให้พร้อมรับมือกับความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด(พีค)  ภาพรวมๆเมื่อออกมาเป็นต้นทุนค่าไฟฟ้าของประชาชนทั้งประเทศอาจส่งให้แพงขึ้น  ในขณะที่ ผู้ประกอบธุรกิจขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียม เช่น บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) หรือ ปตท.สผ. จะต้องปรับตัวเพราะความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติผลิตไฟฟ้าลดลง  

             ” ก.พลังงาน อยู่ระหว่างศึกษาผลกระทบจากการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป ที่ปัจจุบันเริ่มเห็นการเปลี่ยนผ่านโครงสร้างค่าไฟฟ้าทำให้พีคเปลี่ยนจากกลางวัน ไปเป็นกลางคืน ซึ่งหากมีผลกระทบต่อภาระค่าไฟฟ้า ในอนาคตอาจจะต้องปรับอัตราตามช่วงเวลาของการใช้ (Time of Use Rate : TOU)ใหม่ ปัจจุบันการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ยังมีไม่มากอยู่ที่ ร้อย1-2ของการผลิตไฟฟ้า ยังไม่กระทบต่อระบบ แต่ก็ต้องวางแผนรับมือ หากขึ้นไปถึงร้อยละ 10 จะมีผลกระทบต่อระบบและความมั่นคง จำเป็นที่จะต้องศึกษาทำแผนรองรับ”               พล.อ.อนันตพร กล่าว

นาย ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ( สนพ.)กล่าวในเงาน เสวนา”เศรษฐกิจฟื้น …แต่..พลังงานฟุบ” ซึ่งจัดโดย นักศึกษา หลักสูตรด้านวิทยาการพลังงานสำหรับผู้บริหารระดับสูง (วพน.)รุ่น 9 ว่า ราคาน้ำมันที่ลดลง และ disruptive technology  ในการผลิตและการใช้พลังงาน คือ มีการผลิตไฟฟ้าใช้เองเพิ่มขึ้น และมีการเปลี่ยนแปลงเชื้อเพลิงในภาคขนส่ง ก็ทำให้การใช้พลังงานมีการเปลี่ยนแปลงการใช้ก๊าซและการใช้ไฟฟ้าลดลง ดังนั้น  รัฐวิสาหกิจด้านพลังงาน ทั้ง3 การไฟฟ้า และ ปตท.  ต้องปรับ เพิ่มประสิทธิภาพ รองรับ disruptive technology  และเพื่อการแข่งขันตามรัฐธรรมนูญปี 60  หากปรับตัวไม่ทันจะแข่งขันไม่ได้ ซึ่งเปรียบเสมือนจะถูกทิ้งกลางทาง


“ความเสี่ยงด้านพลังงาน เช่น ทรัพยากรก๊าซธรรมชาติลดลง เราต้องปรับ mode ไปใช้เชื้อเพลิงชนิดอื่นมาผลิตไฟฟ้า  ในขณะที่โรงไฟฟ้าถ่านหินถูกต่อต้าน และเมื่อมีเทคโนโลยีใหม่เข้ามา ก.พลังงานก็เดินหน้าเปิดเสรี ท่อก๊าซ คลังแอลเอ็นจี  และกำลังศึกษาเปิดให้ลงทุน MICRO GRID  ทำให้เกิดการแข่งขัน นำมาซึ่งการจัดหาพลังงานอย่างเพียงพอ ราคาเป็นธรรม” นาย ทวารัฐกล่าว

นายสหรัฐ บุญโพธิภักดี รองผู้ว่าการ กฟผ.กล่าวว่า กฟผ.พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม ยังรับนโยบายเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน กระจายเชื้อเพลิง ซึ่งโรงไฟฟ้าถ่านหินตอบโจทย์ด้านนี้ เพราะต้นทุนต่ำ และดูแลสิ่งแวดล้อมได้ ซึ่งในส่วนของโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ เมื่อต้องเริ่มศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมใหม่ ก็คาดหากได้รับอนุมัติก่อสร้างก็จะเริ่มผลิตได้ในเวลา 8 ปีข้างหน้า ส่วนโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา จ.สงขลา ในส่วนผลศึกษาอีเอชไอเอผ่านแล้ว ก็รอเพียงในส่วนท่าเทียบเรือ ส่วนแผนลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน 2 พันเมกะวัตต์ ก็เดินหน้านโยบายของรัฐในการส่งเสริมพลังงานทดแทน และช่วยส่งเสริมนโนบายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศ-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ยันไทยทำถูกต้องปมรั้วลวดหนามบ้านหนองจาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ยันกรณีล้อมรั้วลวดหนาม พื้นที่บ้านหนองจาน ไทยทำถูกต้องภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง บอกโฆษก ทบ. แจงรายละเอียด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กัมพูชาใช้มวลชนมากดดัน เพื่อให้ไทยรื้อลวดหนามบริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รัฐบาลจะมีแนวทางอย่างไร ว่า พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงแล้ว ก็เป็นไปตามนั้น ส่วนจะมีการเพิ่มมาตรการอะไรหรือไม่ นายภูมิธรรม ย้ำว่าเป็นไปตามที่โฆษกกองทัพบกได้ชี้แจงไปแล้ว เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาที่ยังกระทบกันอยู่ ก็แก้ไขปัญหาไปตามสภาพการณ์ เรายืนยันว่าสิ่งที่เราทำถูกต้องแล้ว และทำทุกอย่างภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงที่ประเทศมาเลเซีย .-315 -สำนักข่าวไทย

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนัก-ลมแรง

กรุงเทพฯ 26 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรง ส่วนพายุโซนร้อน “คาจิกิ” คาดอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ก่อนเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ บริเวณ จ.น่าน เย็นวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมแรง และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ปกคลุมบริเวณประเทศลาว ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย […]

จับตา “คาจิกิ” หลายจังหวัดภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วมดินถล่ม

25 ส.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั้งน่าน ชายแดนแม่สาย เชียงราย และเชียงใหม่ ต่างเร่งเตรียมรับมือพายุคาจิกิ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่พรุ่งนี้ นอกจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากแล้ว บางพื้นที่ยังเสี่ยงดินโคลนถล่มด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านใกล้เชิงเขาที่จังหวัดน่าน ซึ่งเกิดดินสไลด์จนกระทบบ้านเรือนนับสิบหลังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว .-สำนักข่าวไทย