กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – กรมศุลกากร ชี้แจงกรณีการตรวจสอบรถยนต์นำเข้าว่า เป็นไปตามกฎหมายทุกประการ
นายชัยยุทธ คำคูณ รักษาการที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร กรมศุลกากรยืนยันว่า การดำเนินการของกรมศุลกากรชอบด้วยกฎหมาย เพราะเป็นคำสั่งกรม แจ้งให้เจ้าหน้าที่ใช้เป็นเกณฑ์ในการตรวจสอบราคารถยนต์นำเข้า 4 บริษัทว่า ผู้ประกอบการนำเข้ารถยนต์แจ้งสำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริงหรือไม่ เพราะได้รับข้อมูลจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ว่า การสำแดงราคารถยนต์นำเข้าใน 4 บริษัท นั้นต่ำกว่าราคาที่ควรจะเป็น ถือเป็นการดำเนินการภายในของกรมศุลกากร ไม่ใช่การออกประกาศเกณฑ์กำหนดราคาประเมินว่า จะรับหรือไม่รับราคาที่สำแดง ซึ่งต้องแจ้งให้ผู้ประกอบการทราบล่วงหน้าและยืนยันว่า คำสั่งดังกล่าวไม่กระทบต่อผู้นำเข้ารถยน์ที่สำแดงราคาโดยสุจริต
“ดีเอสไอได้ตรวจสอบรถยนต์นำเข้าประมาณ 200 คันในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา พบว่า มีการสำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริง จนทำให้รัฐต้องสูญเสียรายได้จากภาษีนำเข้าถึง 4,000 ล้านบาท เพราะประกาศคำสั่ง 317 เป็นเกณฑ์เมื่อ 17 ปีก่อน ซึ่งไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ดังนั้นจึงต้องมีเกณฑ์ใหม่ที่ใกล้เคียงให้เจ้าหน้าที่ได้ใช้ตัดสินใจด้วย เพราะหากให้เกณฑ์เดิม ปล่อยไปและติดตามในภายหลัง กว่าจะรู้และไว้เก็บ บางบริษัทก็ปิดกิจการไปแล้ว”นายชัยยุทธ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้นำเข้ารถยนต์ยังมีหน้าที่แจ้งสำแดงราคานำเข้า เพื่อใช้ในการประเมินภาษี หากเจ้าหน้ากรมศุลกากรไม่รับราคา เพราะเห็นว่าต่ำกว่าความเป็นจริง ก็จะให้ผู้ประกอบการยื่นเอกสารหลักฐานพิสูจน์ว่า ราคาที่สำแดงนั้นถูกต้อง แต่หากกรมศุลกากรยังไม่รับราคานั้น ผู้ประกอบการจะต้องวางประกัน ถ้าต้องการนำรถยนต์ออกไป ซึ่งหากสามารถพิสูจน์ราคาที่ยื่นสำแดงได้ ก็จะได้หลักประกันคืน แต่หากพิสูจน์ไม่ได้ก็จะถูกยึดหลักประกันไป ซึ่งถือเป็นหลักปฏิบัติทั่วไปอยู่แล้ว