นายกฯ เชิญนักลงทุนญี่ปุ่นตัดสินใจลงทุนอีอีซีปีนี้

ทำเนียบฯ 11 ก.ย. – นายกรัฐมนตรีต้อนรับคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจฯ ญี่ปุ่น พร้อมชูศักยภาพ  ECCi  หวังญี่ปุ่นเป็นหุ้นส่วนเศรษฐกิจร่วมกัน เชิญนักลงทุนญี่ปุ่นเร่งตัดสินใจลงทุนในประเทศไทย 


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับนายฮิโรชิเกะ เซโกะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (เมติ) พร้อมด้วยหน่วยงานด้านเศรษฐกิจและคณะนักลงทุนรายใหญ่กว่า 600 ราย เนื่องในโอกาสความสัมพันธ์ไทย -ญี่ปุ่น ครบรอบ 130 ปี นับว่าญี่ปุ่นยังเชื่อมั่นเสถียรภาพทางเศรษฐกิจไทย และหวังเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ Thailand 4.0 กับนโยบาย Connected Industries ของญี่ปุ่น เพื่อเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจต่อเนื่องถึงการส่งเสริมการเปิดเสรีการค้าและการลงทุน การพัฒนา 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายและผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ตลอดจนการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ( EEC)  ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง ไปสู่เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ( EECi)  ซึ่งมีจุดเด่นด้านนวัตกรรมและยังกำหนดแผนการลงทุนเพื่อเชื่อมโยงการคมนาคมระยะ 5 ปี ระหว่างกรุงเทพฯ – EEC และเชื่อมสู่ภูมิภาคทั่วประเทศ ด้วยโครงการต่าง ๆ อาทิ โครงการพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาให้รองรับผู้โดยสารจาก 3 ล้านคน เป็น 60 ล้านคนต่อปี ภายในปี 2575 การก่อสร้างทางหลวงต่าง ๆ เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีในกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ให้ไทยมากขึ้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า ญี่ปุ่นถือเป็นมิตรแท้ที่มีบทบาทและเป็นต้นแบบหลายด้านสำคัญต่อเนื่องมาหลายทศวรรษ ทั้งด้านภาคเศรษฐกิจ การเมือง อุตสาหกรรม ตลอดจนการค้าและการลงทุน สำหรับปี 2560 ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการทูตของทั้ง 2 ประเทศได้ดำเนินมาถึงปีที่ 130 และยังถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนของทั้ง 2 ชาติ เนื่องจากต่างฝ่ายต่างกำลังอยู่ในช่วงของภาวะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ จะเห็นได้ว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ มีข่าวน่ายินดีที่เศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นเติบโตมากที่สุดในรอบ 2 ปี และเป็นผลต่อเนื่องให้เกิดการกระตุ้นการใช้จ่าย การลงทุน ตลอดจนการผลักดันนโยบายอาเบะโนมิกส์ และ Connected Industries ที่ทั้ง 2 นโยบายดังกล่าวจะเชื่อมโยงมาสู่ยุทธศาสตร์การส่งเสริมกลุ่มประเทศ CLMVT กลุ่มประเทศเพื่อนบ้านของไทย การพัฒนาพื้นที่ EEC รวมทั้งนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ทำให้เกิดการร่วมมือและขับเคลื่อนทั้ง 2 ประเทศไปสู่อนาคต 


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า  การเชื่อมโยงการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ รัฐบาลและหน่วยงานต่าง ๆ ยังคงยึดแม่เหล็กใหญ่ คือ นโยบายไทยแลนด์ 4.0 เป็นสำคัญ โดยหลักการดังกล่าวนั้นสามารถเชื่อมโยงและร้อยเรียงกับนโยบาย Connected Industries ของประเทศญี่ปุ่นให้เกิดความสอดคล้องและเติมเต็มระหว่างกันและนำไปสู่ยุทธศาสตร์ Thailand 4.0 Towards Connected Industries ได้อย่างดีเยี่ยม  เพื่อยกระดับระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกของไทยให้เป็นแลนด์มาร์คของแหล่งอุตสาหกรรมที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชียว่าแม้ต้องใช้เวลาพัฒนา EEC นาน 5-6 ปี แต่ขอให้เอกชนญี่ปุ่นเข้ามาร่วมทุนในปลายปีนี้ เพราะแม้ว่าจะเลือกตั้งใหม่ แต่รัฐบาลยังต้องเดินหน้าพัฒนาต่อ เพราะเป็นกฎหมาย ขณะนี้มียอดขอรัฐส่งเสริมการลงทุนในอีอีซีเพิ่มต่อเนื่อง

นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีแผนการลงทุนเพื่อยกระดับและพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่มีจุดเด่นด้านความเป็นเมืองนวัตกรรมที่เป็นต้นแบบของการพัฒนางานวิจัยเทคโนโลยีและนวัตกรรมลักษณะองค์รวม มีการใช้ทรัพยากรร่วมกันเพื่อก่อประโยชน์สูงสุดด้วยการรวมศูนย์ห้องปฏิบัติการและสนามทดสอบนวัตกรรม ศูนย์รับรองมาตรฐานนวัตกรรมทางด้านระบบและอุปกรณ์อัจฉริยะ โดยจัดตั้งเป็นเขตทดสอบนวัตกรรมอัจฉริยะของประเทศที่ผ่อนปรนกฎระเบียบที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการคิดค้นนวัตกรรม

ทั้งนี้ รัฐบาลยังกำหนดแผนการลงทุนพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งภายใต้โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2560 – 2564) เพื่อเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมขนส่งสินค้าระหว่างกรุงเทพฯ กับภาคตะวันออก รวมทั้งเชื่อมสู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศและเป็นประตูสู่เมียนมาร์ เวียดนาม สปป.ลาว กัมพูชา และจีนตอนใต้ ประกอบด้วยโครงการสำคัญ ๆ ได้แก่  โครงการพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาระยะ 5 ปีแรก จะเพิ่มขีดความสามารถให้รองรับผู้โดยสารจาก  3 ล้านคน เป็น 5 ล้านคนต่อปี และ 60 ล้านคนภายในปี 2575, โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางและการขนส่ง,  โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 เพื่อรองรับความต้องการขนส่งสินค้าทางทะเลระหว่างประเทศในอนาคต,  โครงการพัฒนาท่าเรือมาบตาพุด ระยะที่ 3 เพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของสาธารณูปโภคหลักในการรองรับการขนส่งสินค้าเหลว ก๊าซธรรมชาติ และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง,  โครงการพัฒนาท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ,  โครงการก่อสร้างถนนมอเตอร์เวย์ 3 เส้นทาง และ  ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จด้านการลงทุน (OSS: One Stop Service) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย


นอกจากนี้ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เกิดการลงทุนในประเทศ รัฐบาลยังได้แก้ไขกฎหมายการส่งเสริมการลงทุน และออกมาตรการเพื่อเร่งรัดการลงทุนเพิ่มเติม ตลอดจนเพิ่มสิทธิประโยชน์และการอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการของนักลงทุนอีกเป็นจำนวนมาก เพื่อหวังให้เกิดการลงทุนรูปแบบใหม่ ๆ ตลอดจนการส่งเสริมให้ไทยเป็นฐานการลงทุนต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น โดยยังตั้งเป้าให้มีการถ่ายทอดหรือแลกเปลี่ยนในอุตสาหกรรมเดิมและอุตสาหกรรมใหม่ อาทิ ยานยนต์ อากาศยาน เครื่องมือแพทย์ Green Technology ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้จะอัพเกรดให้ทุกอย่างอยู่ภายใต้คอนเซปต์ “สมาร์ท” เพื่อให้ความก้าวล้ำเกิดขึ้นอย่างทั่วถึง 

จากนั้นช่วงค่ำวันนี้นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังได้นำคณะผู้เดินทางจากญี่ปุ่นร่วมกิจกรรมสร้างเครือข่ายธุรกิจกับนักลงทุนไทย (Business Networking Reception) พร้อมรับประทานอาหารค่ำและชมการแสดงวัฒนธรรมไทยและญี่ปุ่น เนื่องในโอกาสครบรอบ 130 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ญี่ปุ่น  โดยมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับพร้อมกล่าวอวยพร ณ โรงแรมพลาซ่า แอทธินี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบช.น.ยอมรับการอบรมอาสาตำรวจให้คนจีนมีจริง-ตร.แค่เป็นวิทยากร

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยอมรับการอบรมอาสาตำรวจให้กับคนจีนมีจริง แต่เจ้าของโครงการ ไม่ใช่ตำรวจนครบาล 3 เพียงแต่ถูกเชิญไปเป็นวิทยากรเท่านั้น ส่วนเจ้าของโครงการ เป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังย่านฝั่งธนบุรี

ชายวัย 53 เมาคว้าปืนลูกซองยิงเพื่อนบ้านวัย 60 ดับ ฉุนฉลองปีใหม่

ชายวัย 53 ปี อารมณ์ร้อน คว้าปืนลูกซองยิงชายวัย 60 ปี เสียชีวิต ฉุนนั่งย่างเนื้อให้ลูกๆ ที่กลับมาเยี่ยมบ้านฉลองปีใหม่

ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ

นึกว่าแจกฟรี ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น เมืองเชียงใหม่

เอาใจสายเนื้อ ขึ้นเหนือไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ย่านถนนราชดำเนิน กลางเมืองเชียงใหม่ ขายดิบขายดี นึกว่าแจกฟรี ลูกค้าต่อแถวยาวเหยียด

ข่าวแนะนำ

กต.เผยเมียนมาปล่อยนักโทษไทย 152 คน-ไม่มี 4 ลูกเรือประมง

กระทรวงการต่างประเทศ เผยเมียนมาปล่อยตัวนักโทษชาวไทย 152 คน แต่ยังไม่มี 4 ลูกเรือประมง ยืนยันพยายามอย่างเต็มที่

นศ.ซิ่งเก๋งชนเสาไฟล้ม 12 ต้น ทับรถ 3 คัน โค้งถนนกาญจนาภิเษก

นักศึกษาซิ่งเก๋งชนเสาไฟฟ้าล้ม 12 ต้น ทับรถที่วิ่งผ่านไปมาเสียหาย 3 คัน บริเวณโค้งถนนกาญจนาภิเษก ตัดเพชรเกษม ประชาชน 150 ครัวเรือนเดือดร้อนไฟดับ การไฟฟ้านครหลวงเร่งซ่อมแซม คาดเย็นนี้กลับมาใช้การได้ตามปกติ

นายหน้าลอยแพ 250 แรงงานไทย ไร้ตั๋วบินทำงานต่างประเทศ

ฝันสลาย แรงงานไทย 250 ชีวิต เหมารถมาสนามบินเก้อ หวังได้ไปทำงานในต่างประเทศ สุดท้ายไม่มีตั๋วบิน รวมตัวแจ้งความตำรวจ หวั่นถูกหลอกสูญเงินกว่า 12 ล้านบาท