แนะรัฐรับมือปัญหาน้ำ-ที่ดินปี 2035

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – คาด 18 ปีข้างหน้า หรือปี 2035 พื้นที่เกษตรจะลดน้อยลงหลังเมืองขยายตัว แนะเตรียมบริหารที่ดิน- น้ำให้มีประสิทธิภาพ เก็บภาษีมลพิษทางน้ำรวมทั้งค่าน้ำเพื่อการเกษตร และรับมือน้ำขาดแคลนหากอีอีซีแจ้งเกิด


ในงานสัมมนา “ภาพอนาคตในปี 2935 : ที่ดินพลังงานและน้ำในประเทศไทย” จัดโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ ) ซึ่งมีการดูถึงนโยบายรัฐบาลหลายด้าน เช่น 10 อุตสาหกรรมแห่งอนาคต นโยบายพัฒนาการเกษตร โครงสร้างพื้นฐาน การท่องเที่ยว การขยายตัวของเมืองใหญ่การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีของโลก มีการพัฒนานวัตกรรม ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยทีมวิจัยประเมินว่าใน 18 ปีข้างหน้าจีดีพีไทยที่มีโอกาสเป็นไปได้มากสุด คือขยายตัวร้อยละ 3.73-3.85 การใช้พลังงานจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5-5 ต่อปี 

นายนณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการทีดีอาร์ไอ กล่าวว่า ใน 18 ปีข้างหน้าภาคอุตสาหกรรม ภาคขนส่งและภาคบริการขยับดีขึ้นมีเพียงด้านการเกษตรลดลง อย่างไรก็ตาม หากประเทศไทยไม่มีนโยบายใหม่อะไรออกมาเลยเศรษฐกิจจะชะลอตัว และการเข้าสู่สังคมสูงวัยไทยจะประสบปัญหาแรงงานขาดแคลนพึ่งพาต่างด้าว ขณะที่สังคมจะต้องเข้ามาดูแลผู้สูงอายุมากขึ้น เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวเพียงร้อยละ 2.54 กรณีมุ่งเน้นภาคการเกษตร และร้อยละ 2.87 กรณีพึ่งพาภาคบริการ และหากพัฒนาโดยอาศัยกรอบยุทธศาสตร์ชาติ หากเทียบเคียงเกาหลีใต้ (ภาคอุตสาหกรรมเข้มข้น) จีดีพีจะโตร้อยละ 3.95 และแบบฝรั่งเศส (พึ่งพาบริการหรือการท่องเที่ยว) จีดีพีไทยจะขยายตัวร้อยละ 2.89


นายอุชุก ด้วงบุตรศรี อาจารย์ ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า การใช้ที่ดินและน้ำด้านท่องเที่ยว , อุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้น พื้นที่เกษตรจะลดลงร้อยละ 11.59-4.35 จาก 138 ล้านไร่ในปี 2557 เหลือ 122-132 ล้านไร่ใน 18 ปีข้างหน้า นับได้ว่าที่ดินเกษตรลดลงอย่างรวดเร็วภายหลังยกเลิกโครงการจำนำสินค้าเกษตรและประกันรายได้เกษตรกร ขณะที่การใช้ที่ดินสาขาที่อยู่อาศัยจะขยายตัวสูงสุด อย่างไรปัจจัยหักเหยังจะเกิดจาก พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและ พ.ร.บ.การเช่าที่ดินเกษตร ที่กำหนดให้เช่า 6 ปี, ภาวะ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก (climate change)

“ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะเป็นตัวกระตุ้นการใช้ประโยชน์ที่ดินมากขึ้น โดยในไทยคนรวยถือครองที่ดินร้อยละ 80 เกษตรกรไร้ที่ดินทำกินเพิ่มขึ้น ภาครัฐจะหาที่ดินทำกินให้เกษตรกรปัญหาจะวนมาถึงพื้นที่ป่า ที่ลดลง” นายอุชุก กล่าว

ทั้งนี้ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (2550-2559) การใช้ที่ดินในไทยมีการขยายตัวของชุมชนเมืองและสิ่งปลูกสร้าง,ที่ดินรกร้างลดน้อยลง 1.96 ล้านไร่, พื้นที่ป่าลดลงมากถึง 7.32 บ้านไร่, นาข้าวลดลง 5.28 ล้านไร่, ไม้ยืนต้นเพิ่มขึ้น 10.40 ล้านไร่ และพืชไร่เพิ่มขึ้น 2.54 ล้านไร่ 


นายนิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณทีดีอาร์ไอ กล่าวว่า ในส่วนน้ำความต้องการน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้น รวมทั้งภาคธุรกิจ ซึ่งประชากรเมืองใช้น้ำต่อหัวมากกว่าโดย 18 ปีข้างหน้าเขตนครหลวงใช้ 452 ลูกบาศก์เมตรต่อหัว ภูมิภาค 339.84 ลูกบาศก์เมตรต่อหัว ขณะที่นักท่องเที่ยวหากเพิ่มขึ้นจาก 34ล้านคน/ปี เป็น 50-60 ล้านคน/ปี จะมีผลให้การใช้น้ำพื้นที่ท่องเที่ยวสูงขึ้นเป็น 500 ลิตร/คน/วัน ในพื้นที่ชายทะเล และ 350 ลิตร/คน/วัน ในพื้นที่อื่น ๆ

อย่างไรก็ตาม การจัดการในอนาคตขึ้นอยู่กับโครงการใหญ่ของภาครัฐจะเกิดขึ้นตามแผนหรือไม่ เช่น โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซี กรมชลประทานประเมินว่าจะมีความต้องการน้ำเพิ่มเป็น 600 ล้านลูกบาศก์เมตร/เป็นจริงหรือไม่ โดยกรมชลฯ ประเมินว่าบนพื้นฐานแหล่งน้ำปัจจุบันจะมีเพียงพอเพียง 300 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนที่เหลือต้องพัฒนาใหม่หรือโครงการรับซื้อจากต่างประเทศ เช่น “สตึงมนัม” จากกัมพูชา ซึ่งเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการพัฒนาพื้นที่จะเกิดขึ้นได้ตามแผนหรือไม่ และต้องดูด้วยว่าการคาดการณ์แม่นยำหรือไม่ โดยในภาคตะวันออกพบว่าฝนตกมาก แต่เก็บน้ำได้เพียงร้อยละ 12 ขณะที่ความต้องการในพื้นที่โตร้อยละ 6-7 ต่อปี ซึ่งมีการประเมินว่าอนาคตจะขาดแคลนอย่างรุนแรงและต้องแย่งชิงกันระหว่างภาคเศรษฐกิจ

นายนิพนธ์ กล่าวว่า การใช้น้ำทีมวิจัยเสนอว่าเพื่อให้เกิดการจัดการน้ำที่เหมาะสมแก้ปัญหาอุปสงค์ส่วนเกินควรเดินหน้าจัดเก็บค่าบำรุงรักษาคลองชลประทาน ศึกษาการจัดเก็บค่าน้ำ การแก้ไขกฏหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการคิดค่าน้ำดิบจากการประปาฯ และเพื่อแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำ ควรจัดเก็บภาษีมลพิษในน้ำและภาษีนำเข้าสารเคมีการเกษตร

“เรื่องการเก็บค่าน้ำภาคการเกษตรควรจะจัดเก็บเพื่อให้เกิดการใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถกำหนดอัตราต่ำได้ แต่เรื่องนี้นักการเมืองจะต่อต้านโดยตลอด” นายนิพนธ์ กล่าว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ทุ่นระเบิดใหม่ตอกย้ำกัมพูชาละเมิดกติกาสากล

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – วันนี้ รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูตภาคีอนุสัญญาออตตาวา ลงพื้นที่ดูปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด บนภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมเรียกร้องให้ตัดงบช่วยเหลือกัมพูชา หลังใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ผู้บริจาค ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ยืนยันเป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่เพิ่งพบช่วงเหตุปะทะล่าสุด.-สำนักข่าวไทย

ผลถก RBC กัมพูชาเมินกู้ทุ่นระเบิด-ปราบสแกมเมอร์

ตราด 16 ส.ค. – กัมพูชายังไม่ให้ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด หลังฝ่ายไทยผลักดันในเวที “RBC ไทย-กัมพูชา” พื้นที่ชายแดนจันทบุรี-ตราด พร้อมการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ แขวนไว้หารือในการประชุมครั้งต่อไป พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า วันนี้ (16 สิงหาคม 2568) พลเรือโท อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และพลตรี อุย เฮียง ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา ตลอดจนคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคของทั้งสองฝ่าย จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ (Regional Border Committee) หรือ RBC ณ ประเทศไทย ที่บ้านทะเลภูรีสอร์ท อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เพื่อร่วมกันหารือในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และการดำเนินชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศด้วยสันติวิธี โดยได้ลงนามใน “บันทึกความตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ราชอาณาจักรไทย กับภูมิภาคที่ 3 […]

วัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะแจงดำเนินคดีอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท

กทม. 16 ส.ค.-ไวยาวัจกรฝ่ายกฎหมายวัดเครือวัลย์ ตั้งโต๊ะชี้แจงการดำเนินคดีกับอดีตไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัด 56 ล้านบาท ตรวจสอบประวัติย้อนหลัง 10 ปี พบปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาส 240 ครั้ง ด้านเจ้าอาวาสยอมรับเสียใจ ผิดหวังที่ไว้ใจคนใกล้ตัว ไวยาวัจกรวัดฝ่ายกฎหมาย ตั้งโต๊ะชี้แจง กรณีที่มีบุคคลภายในวัดปลอมลายมือชื่อเจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์วรวิหาร ไปถอนเงินออกจากบัญชีวัดกว่า 240 ครั้ง ยักยอกเงินกว่า 56 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน ปี 67 ที่ผ่านมา ในส่วนการดำเนินการขณะนี้แบ่งเป็น 3 คดี คดีแรก พบการกระทำความผิดคือเมื่อเดือนเมษายน 2567 ทางวัดได้รับบริจาคจากกองทัพเรือเป็นแคชเชียร์เช็ค 1.5 ล้านบาท ลงวันที่ 10 เมษายน 2567 โดยในแคชเชียร์เช็คระบุว่ามอบให้ทางวัด จึงต้องเอาเข้าบัญชีวัด ทางเจ้าอาวาสจึงมีการมอบให้นายกฤษณ์ ที่เป็นไวยาวัจกรวัดในตอนนั้น เอาแคชเชียร์เช็คดังกล่าวไปขึ้นเงินและเอาเข้ายังบัญชีของวัด ต่อมาทางเจ้าอาวาสได้ทวงถามไปยังนายกฤษณ์ เพราะในขณะนั้นจำเป็นจะต้องบูรณะศาสนสถาน แต่นายกฤษณ์ อ้างว่าไม่ว่าง และได้มอบหมายให้นายชัยณรงค์ ซึ่งเป็นผู้ช่วยไวยาวัจกรในตอนนั้นนำเงินไปเข้าธนาคาร ทางเจ้าอาวาสเลยมีการติดต่อไปยังนายชัยณรงค์ เพื่อทวงถามเรื่องเงิน แต่ก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด […]

“มาริษ” นำคณะทูตดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูต 33 ประเทศ ดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ เตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง ให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ หลังจากฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในภาพรวมที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา และตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ รวม 33 ประเทศ ขึ้นไปสำรวจพื้นที่และดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ ที่อยู่ใกล้แนวปราสาทพระวิหาร เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่ขึ้นภูมะเขือ งดถ่ายภาพติดพื้นที่ทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ระหว่างทางขึ้น ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ถูกสะเก็ดเสียหายอีก 2 หลัง โดยจุดนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายด้วย เพื่อให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ.-สำนักข่าวไทย