สธ.8 ก.ย.-รมว.สาธารณสุข ร่วมประชุมอาเซียนบวกสามที่บรูไน นำเสนอนโยบายส่งเสริมสุขภาพที่เหมาะสมทุกช่วงวัย พร้อมวางแผนจัดตั้งศูนย์เรียนรู้อาเซียน เพื่อพัฒนาผู้สูงอายุให้มีสุขภาวะที่ดี ภายในปี 2562
นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า ได้หารือกับประเทศสมาชิกอาเซียนบวกสาม (จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้) ภายใต้หัวข้อ “การพัฒนาสุขภาพทุกช่วงวัย” (Improving Health Throughout the Life-Course) ในการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนบวกสาม ครั้งที่ 7 ณ ประเทศบรูไน ดารุสซาลาม เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยได้แบ่งปันประสบการณ์ของประเทศไทยที่ให้ความสำคัญกับคุณค่าของทรัพยากรมนุษย์เป็นยุทธศาสตร์หนึ่ง ในการพัฒนาประเทศ ซึ่งมีการลงนามความร่วมมือในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ตลอดช่วงชีวิตระหว่างกระทรวง 4 กระทรวงได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงศึกษาธิการ เน้นการนำนโยบายสุขภาพบูรณาการกับนโยบายด้านอื่น ๆ รวมถึงการให้ความรู้ด้านการส่งเสริมสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพที่เหมาะสมสำหรับประชาชนไทยในทุกช่วงวัย และหวังว่าในอนาคตอันใกล้ ประชาชนในประเทศอาเซียนบวกสามจะสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพที่จำเป็นไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตามตลอดช่วงชีวิต
นอกจากนี้ได้วางแผนจัดตั้งศูนย์เรียนรู้อาเซียนเพื่อพัฒนาผู้สูงอายุให้มีสุขภาวะที่ดี(ASEAN Center for Active Aging and Innovation (ACAI) ภายในปี 2019 เพื่อเป็นแหล่งสร้างความรู้เพื่อพัฒนาผู้สูงวัยให้มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตใจที่ดี เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านผู้สูงวัยในประชาคมอาเซียนเพื่อเตรียมพร้อมสู่สังคมสูงอายุอย่างราบรื่น ซึ่งประเทศไทยหวังว่าประเทศอาเซียนบวกสามจะเข้ามาพัฒนาศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ร่วมกัน ทั้งนี้ รัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียนภายใต้กรอบอาเซียนบวกสาม ได้ร่วมกันรับรองแถลงการณ์ร่วมของรัฐมนตรีสาธารณสุข โดยเน้นการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน การพัฒนาระบบประกันสุขภาพและการเตรียมการสู่สังคมผู้สูงอายุ
สำหรับช่วงบ่ายได้ร่วมประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน-จีน ครั้งที่ 6 ภายใต้หัวข้อ “เทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาสุขภาพ” (Technology to improve health) โดยเน้นความสำคัญของเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า ทำให้ประชาชนได้รับการดูแลสุขภาพที่ดี ขณะเดียวกัน จะต้องคำนึงถึงการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมเหมาะกับบริบทของประเทศ ซึ่งจะต้องนำการประเมินเทคโนโลยีทางสุขภาพเข้ามาช่วยประเมินความคุ้มค่า พร้อมทั้งได้รับรองแถลงการณ์ร่วมรัฐมนตรีสาธารณสุขอาเซียน-จีน ที่เน้นประเด็นการส่งเสริมสุขภาพและเทคโนโลยีสารสนเทศด้านสุขภาพในการดำเนินการปี 2560-2561 .-สำนักข่าวไทย