ไทยลุ้นอันดับทำธุรกิจขยับขึ้น

กระทรวงการคลัง 6 ก.ย. – รองนายกรัฐมนตรีปลื้มหลังธนาคารโลกแจ้งข่าวดี ปฏิรูปปัญหาคืบหน้า 4 ด้าน ตุลาคมนี้ลุ้นขยับอันดับ Doing Business หวังดึงความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ 


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี  เป็นประธานการประชุมการติดตามความก้าวหน้าการขับเคลื่อนการอำนวยการความสะดวกในการประกอบธุรกิจ (Doing Business)  เพื่อรับทราบความคืบหน้าการปฏิรูปด้านต่าง ๆ ตามที่ธนาคารโลกเสนอแนะให้ดำเนินการอำนวยความสะดวกธุรกิจ หลังจากการแก้ไขทุกด้านคืบหน้าเกินครึ่งแล้ว แต่รัฐบาลต้องการเร่งรัดให้ทุกด้านมีความชัดเจนเป็นรูปธรรม

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ธนาคารโลกรายงานการแก้ไขอุปสรรคคืบหน้าไปมาก 4 ด้าน จากทั้งหมด 10 ด้าน เตรียมประกาศผลการจัดอันดับเดือนตุลาคมนี้ หลังเข้ามาประเมินข้อมูลช่วงเดือนพฤษภาคม จากปัจจุบันไทยมีอันดับความสะดวกการประกอบธุรกิจ อันดับ 46 คาดว่าครั้งนี้เป็นข่าวดีน่าจะขยับอันดับกว่า 30 มองว่าเมื่อไทยแก้ปัญหาคืบหน้าหลายเรื่องอาจทำให้ติดอันดับ 1 ใน 10 เหมือนกับสิงคโปร์ได้อย่างแน่นอน เพราะกลุ่มอาเซียนสิงคโปร์ติดอันดับ 1 ใน 10 ขณะที่มาเลเซียติด 20 อันดับแรก เพราะการแก้ปัญหาด้านต่าง ๆ ในยุค คสช. ยอมรับว่าจะสามารถขับเคลื่อนหลายด้านไปพร้อมกันได้ จึงต้องเร่งใช้ประโยชน์ช่วงนี้เร่งปฏิรูปทุกด้าน  ยอมรับว่าแม้การแก้ปัญหาเพื่อลดอุปสรรคด้านต่าง ๆ จะมีความคืบหน้ามาก แต่ต้องสอบถามความเห็นภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ใช้บริการจริงว่าได้รับอำนวยความสะดวกมากน้อยเพียงใด 


นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานพัฒนาข้าราชการพลเรือน (ก.พ.ร.) กล่าวว่า ความคืบหน้า 4 ด้าน จากทั้งหมด 10 ด้านต้องเร่งแก้ไข ได้แก่ 1.การเริ่มต้นธุรกิจ จากการยกเลิกข้อกำหนดการให้ผู้ประกอบการจัดส่งสำเนาข้อบังคับการทำงานให้กับกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และการยกเลิกการใช้ตราประทับของบริษัทในใบหุ้น  2.การจดทะเบียนทรัพย์สิน หลังจากกรมที่ดินเริ่มจัดเก็บข้อมูลแสดงสิทธิ์แบบอิเล็กทรอนิกส์ และใช้ระบบสารสนเทศสำหรับแสดงข้อมูลแปลงที่ดินภาพถ่ายดาวเทียมทางอากาศในเขตกรุงเทพฯ  3.การคุ้มครองนักลงทุนรายย่อย ด้วยการเปิดให้ผู้ถือหุ้นสัดส่วนน้อยฟ้องร้องกรรมการบริษัทง่ายขึ้นในกรณีทำให้ธุรกิจเกิดความเสียหายต่อคู่สัญญา และการเพิ่มบทบาทผู้ถือหุ้นในบริษัทมากขึ้น 4.การแก้ปัญหาการล้มละลาย ด้วยการปรับเปลี่ยนวิธีลงคะแนนเสียงการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้

สำหรับปัญหาที่เหลือ หากต้องเชื่อมหลายหน่วยงานเตรียมเสนอ ครม.เพื่อให้เจ้ากระทรวงรับทราบและเร่งแก้ไข จึงทำให้ขั้นตอนคืบหน้ามาก หลังจากนี้ 3-4 สัปดาห์ธนาคารโลกจะแจ้งผลการประเมินเพิ่ม จึงต้องเร่งประชาสัมพันธ์ให้ทุกหน่วยงาน นักลงทุน ประชาชนรับทราบการแก้ปัญหาด้านต่าง ๆ. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ข่าวแห่งปี 2567 : รวมฉ้อโกง “ดารา-คนดัง” ไม่รอด

ตลอดปี 2567 ยังมีผู้คนตกเป็นเหยื่อของกลโกง มิจฉาชีพ ที่มาในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ บางคนถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัว และที่น่าตกใจเริ่มมีคนดังเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีมากขึ้น

หมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาฉลองปีใหม่

บรรยากาศการเดินทางหมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวปีใหม่ ด้าน รฟท. คาดผู้โดยสารเดินทางขาออกวันนี้ 1 แสนคน

รถเริ่มแน่น! สายเหนือ-อีสาน การจราจรชะลอตัว

ประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา หยุดยาวปีใหม่ ถ.พหลโยธิน มุ่งหน้าสายอีสาน รถแน่น ส่วนถนนสายเอเชีย ขึ้นเหนือ รถเคลื่อนตัวได้ช้า