ปักกิ่ง 18 ก.พ.- นักวิเคราะห์มองการที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนเป็นประธานการประชุมกับผู้นำภาคธุรกิจเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปีเมื่อวานนี้ว่า เป็นการแสดงให้เห็นว่า เขาให้ความสำคัญกับภาคธุรกิจเหล่านี้ว่าจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้
นายนีล โทมัส นักวิจัยเรื่องการเมืองจีนของ Asia Society Policy Institute ซึ่งเป็นหน่วยงานวิชาการด้านเอเชียให้ความเห็นว่า การที่ผู้ประกอบการเรียงหน้ามาร่วมการประชุมสัมมนาเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่งสะท้อนว่า ประธานาธิบดีสีให้ความสำคัญกับภาคเอกชนว่าจะสนับสนุนเป้าหมายของเขาที่ต้องการให้จีนสามารถพึ่งพาตนเองในเรื่องเทคโนโลยีและมีความมั่นคงด้านห่วงโซ่อุปทาน
นายอัลเฟรโด มอนทูฟาร์-เฮลู หัวหน้าศูนย์จีนของ The Conference Board ซึ่งเป็นองค์กรของหน่วยงานวิชาการและภาคธุรกิจระดับโลกมองว่า ความคิดความอ่านของคณะผู้นำจีนได้เปลี่ยนไปแล้ว แม้ไม่อยากจะเชื่อ แต่คณะผู้นำจีนได้ตระหนักแล้วว่า บริษัทเทคโนโลยีจีนช่วยให้เศรษฐกิจจีนเติบโตมากกว่าที่พวกเขาคิด
รอยเตอร์ระบุว่า ประธานาธิบดีสีเคยเป็นประธานการประชุมสัมมนาภาคธุรกิจครั้งแรกในปี 2561 ครั้งนั้นผู้บริหารที่นั่งแถวหน้าส่วนใหญ่ไม่เป็นที่รู้จักเท่าใดนัก โดยมาจากหลากหลายธุรกิจ และเป็นช่วงที่เศรษฐกิจจีนยังเฟื่องฟู ขณะที่ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ยังไม่เลวร้ายเช่นในปัจจุบัน ครั้งนี้ประธานาธิบดีสีขอให้มหาเศรษฐีเหล่านี้แสดงพรสวรรค์ออกมา โดยขอให้เชื่อมั่นในรูปแบบและตลาดของจีน พร้อมกับรับปากว่าจะให้ภาคธุรกิจแข่งขันกับวิสาหกิจของรัฐอย่างเท่าเทียมกัน
รอยเตอร์ชี้ด้วยว่า ที่นั่งของผู้บริหารจีนในการประชุมสำคัญเช่นนี้เป็นสิ่งบ่งบอกถึงสถานภาพของแต่ละบริษัท นายเริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งหัวเว่ย เทคโนโลยี และนายหวัง ฉวนฝู ผู้ก่อตั้งบีวายดี บริษัทยานยนต์ไฟฟ้า เป็นผู้บริหาร 2 คนที่นั่งตรงข้ามกับประธานาธิบดีสี ขณะที่นายแจ๊ก หม่า ผู้ร่วมก่อตั้งอาลีบาบากรุ๊ป บริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติ และนายโพนี หม่า ผู้ร่วมก่อตั้งเทนเซ็นต์ โฮลดิงส์ กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติ นั่งอยู่แถวหน้าเช่นกัน ส่วนนายหวัง ซิง ผู้ก่อตั้งเหม่ยถวน แพลตฟอร์มสินค้าและบริการนั่งอยู่ในแถวที่ 2.-814.-สำนักข่าวไทย