กรุงเทพฯ 24 ต.ค.- ศตส.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปรับแนวทางอำนวยความสะดวกประชาชนที่จะเข้าเฝ้าฯถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพิ่มบริการรถ-เรือ-อาหารรองรับ เตรียมดูแลทางการแพทย์กรณีฉุกเฉิน
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) เปิดเผยว่า จากการปฏิบัติเพื่ออำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนที่จะไปเข้าเฝ้าถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง ว่าในช่วงที่ผ่านมา ศตส. กองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย (กอร.รส.) กองอำนวยการร่วมกรุงเทพมหานคร (กอร.กทม.) และผู้แทนทุกหน่วยงาน ได้ปรับการปฏิบัติหลายส่วนให้มีความเหมาะสมมากขึ้น อาทิ การเดินทางทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยขอให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เพิ่มบริการรถรับ-ส่งจากจุดจอดรถ 8 แห่ง รวมถึงกรมเจ้าท่า กองทัพเรือ และตำรวจน้ำเพิ่มเรือบริการ เนื่องจากการเดินทางโดยเรือมีความสะดวกมากกว่า ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยปรับการจราจรตามแผนในแต่ละช่วงเวลา จัดระเบียบการนำสิ่งของเข้ามาส่งในพื้นที่ชั้นใน การระบายประชาชนจำนวนมากออกจากพื้นที่ในเวลาเดียวกัน และให้สายตรวจดูแลความปลอดภัย ดำเนินการกลุ่มมิจฉาชีพอย่างต่อเนื่อง
นายสุวพันธุ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ทุกภาคส่วนได้บูรณาการด้านการแพทย์ทั้งเรื่องการเข้าถึงพื้นที่ การรักษาพยาบาลขั้นพื้นฐาน การส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยายาลศิริราช วชิรพยาบาล หรือโรงพยาบาลอื่นๆทางเรือ ในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งแพทย์มีความห่วงใยในภาวะอากาศร้อน ทำให้เป็นลมได้ง่าย ประชาชนบางคนมีโรคหัวใจ นอกจากมีจุดให้บริการทางการแพทย์แล้ว ได้เสริมอาสากู้ชีพของการแพทย์ฉุกเฉินเป็นชุดเดินเท้าเข้าตามพื้นที่ด้วย ขณะที่เรื่องอาหารและเครื่องดื่มมีทั้งในส่วนที่ทรงพระราชทานให้ประชาชน และมูลนิธิต่างๆช่วยทำโรงครัวมากกว่า 22 ราย รวมถึงจากทุกกระทรวงที่จัดเสริม อีกทั้งประชาชนนำมาแจกจ่ายให้กัน ทางกองอำนวยการร่วมจัดระบบให้มีความทั่วถึง ส่วนเรื่องการรักษาความสะอาดและเก็บขยะ ได้นิสิต นักศึกษา และนักเรียนจากทุกสถาบันอาสามาช่วยจำนวนมาก กำลังของอาสาสมัครนักเรียนนักศึกษาช่วยได้หลายเรื่องและมีประสิทธิภาพ สำหรับการอำนวยความสะดวกเข้าถวายสักการะและแสดงความอาลัยนั้นทำได้รวดเร็วขึ้นและเป็นระบบ ประชาชนได้เข้าไปเป็นจำนวนมากขึ้น เฉลี่ยวันละประมาณ 31,000 คน โดย กอร.รส. จะดูแลการปฏิบัติในภาพรวมอย่างไรก็ตาม ศตส.และทุกฝ่ายกำลังวางแผนการปฏิบัติสำหรับวันที่ 28 ต.ค.นี้ เป็นต้นไป ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนมาจำนวนมากทุกวัน โดยมีการประชุมร่วมกับสำนักพระราชวัง ในวันนี้(24 ต.ค.) นอกจากนี้ ในวันที่ 26 ต.ค.นี้ เวลา 09.00 น. ศตส.จะประชุมพิจารณาแผนและความพร้อม สำหรับการดูแลประชาชนจากต่างจังหวัดด้วย
“ นอกจากระบบให้การดูแลและบริหารจัดการตามปกติที่เราจะทำต่อไป กระทรวงมหาดไทยและจังหวัดได้จัดระบบนำประชาชนเข้ามาอีกทางหนึ่ง เพื่อให้โอกาสผู้ที่ไม่สามารถเดินทางมาด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม สามารถเดินทางมาได้ จำนวนที่จัดไว้ก็สามารถปรับได้ในอนาคตเมื่อประเมินสถานการณ์จริงได้แล้ว และไม่ได้จำกัดสิทธิ์ของประชาชนที่สามารถเดินทางเข้ามาด้วยตนเองได้ ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายและประชาชนที่ช่วยกันและร่วมมือกันตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา”นายสุวพันธุ์ กล่าว .-สำนักข่าวไทย