เข้าสู่ 6 วันสุดท้ายกราบถวายบังคมพระบรมศพ

สนามหลวง 30 ก.ย. – 6 วันสุดท้าย กราบถวายบังคมพระบรมศพฯ ประชาชนยังหนาแน่น ขณะที่ประชาชนบางส่วนที่มาจากต่างจังหวัดตั้งใจรอใน กทม. จนถึงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพเสร็จสิ้น


บรรยากาศรอบพระบรมมหาราชวัง ในช่วง 6 วันสุดท้ายที่สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง มีประชาชนจากทั่วสารทิศทยอยเดินทางมาอย่างเนืองเเน่น โดยเฉพาะในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ทำให้บริเวณจุดคัดกรองทั้ง 2 จุด ที่กองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง (กอร.รส.) จัดไว้ คือ พระเเม่ธรณีบีบมวยผม ขณะนี้ท้ายเเถวอยู่บริเวณหน้าอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ถ.ราชดำเนิน ขณะเดียวกัน จุดที่ 2บริเวณวงเวียน รด. ท้ายเเถววนอยู่รอบสวนสราญรมย์

โดยตั้งแต่เมื่อวานเป็นวันแรกที่สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพฯ ตลอด 24 ชั่วโมง หยุดพักเพียง 1 ชั่วโมง คือเวลา 04.00-05.00 น. เท่านั้น เเละเริ่มนับยอดประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพตอนเที่ยงคืน ซึ่งเมื่อวานนี้ (29 ก.ย.) มีประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ 48,750 คน


ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว เจ้าหน้าที่เเละจิตอาสาก็ยังให้บริการประชาชนอย่างเต็มที่ เเจกอาหารเเละเครื่องดื่มอย่างไม่หยุดหย่อน ขณะที่ประชาชนทุกคนก็ยังรอด้วยความตั้งใจ เพื่อถวายความอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย เเม้จะต้องรอนาน 8-10 ชั่วโมง อย่างเช่น ครอบครัวพญาครุฑ ที่เดินทางมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งเเต่เช้าตรู่ เพื่อกราบถวายบังคมพระบรมศพเป็นครั้งที่ 5 บอกว่า เเม้รู้ว่าวันนี้เป็นหยุดเเละต้องรอนานกว่าปกติ ก็เต็มใจเเละภูมิใจที่เห็นพี่น้องชาวไทยออกมาเเสดงความอาลัยต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 อย่างล้นหลาม

เช่นเดียวกับคุณตาสมชัย อัตเวทยาน เดินทางมาจาก จ.ภูเก็ต เพียงผู้เดียว เพื่อมาถวายความอาลัยเป็นครั้งเเรก เเละตั้งใจจะอยู่กรุงเทพฯ จนเสร็จสิ้นพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ เพราะพระองค์คือศูนย์รวมจิตใจ เเละทรงงานหนักเพื่อประชาชนมาตลอด 70 ปี

ด้าน พล.ต.ธานี ฉุยฉาย ที่ปรึกษาแม่ทัพภาคที่ 1 กำกับดูเเลกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง (กอร.รส.) กล่าวว่า หลังเปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ 24 ชั่วโมง จึงมีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่จัดคิวมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อดูแลประชาชนให้ทั่วถึง ขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้วางมาตรการเข้มงวด ตรึงกำลังทั่วพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง กว่า3,000 นาย ขณะเดียวกันได้เพิ่มเต็นท์แพทย์เป็น 5 จุด ได้แก่ สนาม ทบ. จุดนี้เปิด 24 ชั่วโมง, จุดที่ 2 เต็นท์เเพทย์พระราชทาน 904 ตรงข้ามกรมศิลปากร, จุดที่ 3 เต็นท์เเพทย์พระราชทาน 906 ตรงข้ามศาลฎีกา, จุดที่ 4 เต็นท์แพทย์ของมหาวิทยาลัยแพทย์ ตรงข้ามศาลหลักเมือง และจุดที่ 5 เต็นท์แพทย์ตรงข้างกระทรวงกลาโหม ขณะที่วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมวัดพระเเก้ว เพื่อเตรียมสถานที่จัดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ เเละจะเปิดให้เข้าชมอีกครั้งในวันที่ 30 ตุลาคมนี้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย