วิษณุ ระบุมีตัวแทนศาลในยุทธศาสตร์ชาติป้องกันกระทบสิทธิประชาชน

กระทรวงการต่างประเทศ 1 ก.ย.- “วิษณุ” ย้ำ การมีตัวแทนศาลยุติธรรมร่วมวางยุทธศาสตร์ชาติเพื่อป้องกันการกระทบสิทธิของประชาชน ระบุ ไม่ต้องกล่าวอ้าว “มงแต็สกีเยอ” หากปฏิเสธกระบวนการยุติธรรม 


นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “ทิศทางกระบวนการยุติธรรมไทยต่อการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ” ให้กับ คณะทูตานุทูตนักศึกษาในโครงการอบรมหลักสูตรผู้บริหารกระบวรการยุติธรรมระดับสูง  ผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม และผู้ช่วยผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม ภายในห้อง วิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ

นายวิษณุ กล่าวว่า การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทย เพราะก่อนหน้ามีเพียงการจัดทำแผนพัฒนาในด้านต่าง ๆ  ซึ่งมีระยะเวลาของแผนมากที่สุดคือ 5 ปี เช่น แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ดังนั้นยุทธศาสตร์ชาติ ถือเป็นเป้าหมายในการพัฒนาประเทศในระยะยาว ที่แต่ละด้านมีความสำคัญและความจำเป็น การวางยุทธศาสตร์ชาติอาจมีบางเรื่องที่ไปกระทบกับงานของศาลยุติธรรม ซึ่งในพระราชบัญญัติว่าด้วยยุทธศาสตร์ชาติ ได้กำหนดให้มีตัวแทนของศาลยุติธรรมเข้าร่วมในการวางยุทธศาสตร์ชาติด้วย เพื่อป้องกันผลกระทบและการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน


รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยมีกฎหมายที่ล้าหลัง แต่เมื่อจะมีการแก้ไขหรือยกเลิกมักจะติดปัญหากับหน่วยงานหรือองค์กรเจ้าของกฎหมายที่ไม่ยินยอม  และอ้างว่าใช้มานานไม่เคยมีปัญหา ทั้งที่ความจริงกฎหมายหรือระเบียบเหล่านี้อาจสร้างปัญหาและความลำบากให้กับประชาชนและภาคเอกชนในด้านการค้าการลงทุน เรื่องนี้จึงเป็นสิ่งที่ต้องมีการปฏิรูป

นายวิษณุ กล่าวว่า การเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมของคนจนนั้นจะต้องปรับปรุง เพื่อลดขั้นตอนเยอะ ยุ่งยาก ที่ทำให้ประชาชนไม่สะดวกหรือรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งรัฐธรรมนูญปัจจุบันได้ระบุให้ประชาชนต้องเข้าถึงกระบวนการยุติ มีความรวดเร็ว เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ คงไม่ต้องไปกล่าวอ้างคำพูดของ “มงแต็สกีเยอ” เพราะกระบวนการยุติธรรมที่ล่าช้าก็คือการปฏิเสธกระบวนการยุติธรรม 

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากนี้ขั้นตอนของกระบวนการจะต้องมีการประเมินเวลาในการดำเนินงาน เช่น เมื่อมีการแจ้งความที่โรงพัก การดำเนินคดีนี้ใช้ระยะเวลาทั้งหมดกี่วัน และขั้นตอนต่อไปใช้ระยะเวลาเท่าใด และจากสถิติการพิจารณาคดีของศาล ในปี 2559 พบว่ามีคดีในศาลอาญา 175,000 คดี  ศาลชั้นต้นตัดสินได้ 140,000 คดี ส่วนศาลอุทธรณ์มีคดีกว่า 50,000 คดี ตัดสินได้ 40,000 คดี ขณะที่คดีชั้นศาลฎีกามีประมาณ 19,300 คดี ตัดสินได้ 11,000 คดี ซึ่งจากสถิติจะเห็นว่ามีคดีคงค้างมากจึงต้องปฏิรูปเรื่องนี้ให้ได้ เรื่องต่อไปการฎีกาคดีจะต้องพิจารณาอย่างเข้มข้นมากขึ้น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายรองนายกรัฐมนตรี ยังได้ยกตัวอย่างเปรียบหนังสือ เวนิสวานิช ซึ่งเป็นเรื่องของการทำธุรกิจของกลุ่มพ่อค้าที่จะต้องมีการทำสัญญาจนเป็นคดีในที่สุด โดยเปรียบเทียบให้เห็นว่าเมื่อสิ้นสุดคดีแล้ว ไม่มีใครที่จะพอใจผลคดีร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่จะต้องให้เกิดความพึงพอใจมากที่สุด ภายใต้ความเชื่อมั่นและความพึงพอใจ ดั่งคำพูดที่ว่าในกระแสแห่งยุติธรรมมา แต่ก็ยากจะหาความเกษมเปรมใจ จึงสรุปได้ว่าเมื่อคดีใด ๆ สิ้นสุดแล้วก็ขอให้จบในกระบวนการชั้นศาล อย่าได้มาทวิตเตอร์กันอีกเลย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก