ภูเก็ต 31 ส.ค.- ทีมไกรทองแห่งลุ่มน้ำตาปีและผู้ชำนาญของเอกชน พบตัวจระเข้โผล่กลางทะเลภูเก็ตแล้ว กบดานในขุมน้ำใกล้ชายหาด ไล่ต้อนทั้งคืนถึงรุ่งเช้ายังไม่สำเร็จ ต้องปรับแผนใหม่ก่อนลงมืออีกรอบคืนนี้ ช่วงกลางวันตามจับยาก พร้อมเฝ้าระวังหลุดออกทะเลอีก
ความคืบหน้าการตามหาจระเข้ในคลิปภาพของผู้ที่บันทึกภาพไว้ได้และนำมาโพสต์ผ่านโซเชียล ขณะที่จระเข้ว่ายน้ำอยู่ในทะเลหาดเลพัง ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งนายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กำชับให้ประมงจังหวัดภูเก็ต นายอำเภอถลาง และองค์การบริหารส่วนตำบลเชิงทะเล เร่งสำรวจตรวจสอบ กระทั่งวานนี้ (30 ส.ค.) เจ้าหน้าที่พบเห็นจระเข้ว่ายน้ำอยู่ในขุมน้ำสาธารณะขนาดใหญ่ เนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ ใกล้กับหาดเลพัง ห่างจากจุดที่พบในทะเลประมาณ 300 เมตร แต่ยังไม่สามารถจับตัวได้และต้องเฝ้าระวังไว้ตลอด
ล่าสุดนายไพบูลย์ บุญลิปตานนท์ ประมงจังหวัดภูเก็ต ได้ประสานพนักงานจากภูเก็ต คร็อกโคไดล์เวิลด์ ซึ่งมีความชำนาญ มาช่วยจับจระเข้ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ชุดไกรทองแห่งลุ่มน้ำตาปี นำโดยนายนิคม สุขสวัสดิ์ เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามน้ำจืดภาคใต้ สุราษฏร์ธานี นำเครื่องมืออุปกรณ์มาดำเนินการตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้ โดยเจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังออกปฏิบัติการไล่ต้อนจระเข้ 2 จุด คือ ชุดที่ลงไปปฏิบัติการในขุมน้ำ ซึ่งมีด้วยกัน 3 คน ใช้เรือ 2 ลำ เพื่อให้เข้าไปยังจุดที่มีการวางอวนไว้ โดยอวนที่นำมาวางดักจระเข้ มีความยาวประมาณ 300 เมตร และอีกจุดปฏิบัติการเฝ้าระวังบนบก หากจระเข้ขึ้นฝั่ง ซึ่งเรือทั้ง 2 ลำ ต้องใช้พายในการเคลื่อนตัวเท่านั้น เนื่องจากไม่สามารถใช้เครื่องยนต์ได้ เพราะเสียงจะทำให้จระเข้ตื่นและไม่ลอยตัวขึ้นเหนือน้ำ
จากการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่พบว่า สามารถพายเรือเข้าไปหาจระเข้ได้หลายครั้ง จุดแรกคือ พบจระเข้ลอยตัวอยู่กลางขุมน้ำ ซึ่งเป็นจุดที่มีน้ำลึกไม่น้อยกว่า 15 เมตร เจ้าหน้าที่พยายามไล่ต้อนเพื่อให้เข้าใกล้ฝั่งที่สุด หรือเข้าใกล้จุดที่วางอวน เพื่อใช้เชือกคล้อง แต่เมื่อเรือเข้าใกล้ก็จะมุดน้ำหนีทันที กระทั่งเวลา 05.30 น. วันนี้ (31 ส.ค.) เจ้าหน้าที่ต้องหยุดปฏิบัติการ เนื่องจากฟ้าสาง จระเข้จะไม่โผล่ขึ้นมาให้เห็น และการต้อนในช่วงกลางวันไม่สามารถทำได้ แต่ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังบริเวณขุมน้ำตลอดเวลา คาดว่าจระเข้อาจว่ายขึ้นมาผึ่งแดดบนฝั่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ทีมต้อนจระเข้จะวางแผนใหม่ เพื่อปฏิบัติการอีกครั้งในคืนนี้
เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการฯ ระบุว่า การตามจับในช่วงกลางคืนเป็นเวลาเหมาะที่สุด เนื่องจากผู้ปฏิบัติงานจะสามารถมองเห็นจระเข้ได้อย่างชัดเจน และสิ่งรบกวนน้อย แต่การทำงานในขุมน้ำค่อนข้างลำบาก เพราะเป็นขุมน้ำกว้างใหญ่หลายสิบไร่ และน้ำลึก จระเข้สามารถว่ายน้ำไปได้ทั่ว การทำงานจึงยังไม่ประสบความสำเร็จ ต้องปรับแผนใหม่.-สำนักข่าวไทย