รัฐจับมือเอกชนผลักดันอุตสาหกรรมหุ่นยนต์

กรุงเทพฯ  30 ส.ค. – กระทรวงอุตสาหกรรมจับมือภาครัฐและเอกชน ผลักดันอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ ขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมไทยสู่ประเทศไทย 4.0 ตามมติ ครม.


กระทรวงอุตสาหกรรมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือขับเคลื่อนอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในแนวทางประชารัฐร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนรวม 14 หน่วยงาน เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทยมุ่งสู่ประเทศไทย 4.0 นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมเล็งเห็นความจำเป็นเร่งด่วนในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในฐานะอุตสาหกรรมแห่งอนาคตและสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมเป้าหมายอื่น ๆ  จึงวางโรดแมพการพัฒนาอุตสาหกรรมในแนวประชารัฐ  โดยมีองค์ประกอบ 3 ส่วนหลัก คือ 1.การกระตุ้นอุปสงค์  โดยสนับสนุนให้อุตสาหกรรมการผลิตและบริการภายในประเทศ นำหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติมาใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ  ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดการลงทุนผลิตอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ  โดยคาดว่าจะทำให้เกิดการลงทุนใช้หุ่นยนต์ 12,000 ล้านบาทในปีแรก  และมีการขยายการลงทุนกว่า 200,000 ล้านบาทใน 5 ปี

2. การสนับสนุนอุปทาน  เพิ่มขีดความสามารถของอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในประเทศ  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง System Integrator (SI) ผู้ทำหน้าที่ออกแบบ  ติดตั้งระบบอัตโนมัติ  ซึ่งจะพัฒนาเป็นผู้ผลิตหุ่นยนต์และเครื่องจักรอัตโนมัติในอนาคต  โดยปัจจุบันประเทศไทยมี SI ประมาณ 200 ราย  ทั้งนี้ได้ตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวน SI เป็น 1,400 ราย ภายใน 5 ปี และ 3.การพัฒนาบุคลากรและยกระดับเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ  ไปสู่การผลิตหุ่นยนต์ประเภทอื่น ๆ ที่มีความซับซ้อน  โดยจัดตั้ง Center of Robotic Excellence (CoRE) เป็นเครือข่ายความร่วมมือของ 8 หน่วยงานนำร่อง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด  รวมทั้งสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานเอกชนชั้นนำจากต่างประเทศ  โดยมีเป้าหมายภายใน 5 ปี ต้องพัฒนาหุ่นยนต์ต้นแบบอย่างน้อย 150 ผลิตภัณฑ์  ถ่ายทอดเทคโนโลยีหุ่นยนต์ชั้นสูงให้แก่ผู้ประกอบการจำนวน 200 ราย  และฝึกอบรมบุคลากรไม่น้อยกว่า 25,000 คน


นายอุตตม กล่าวต่อว่า อุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติจะช่วยยกระดับเทคโนโลยีและประสิทธิภาพการผลิตภาคอุตสาหกรรม  รวมทั้งสนับสนุนการพัฒนาประเทศด้านต่าง ๆ เช่น ด้านการเกษตรโดยจะส่งเสริมไปสู่ Smart farming และพัฒนาไปสู่การทำเกษตรแปลงใหญ่  ด้านการแพทย์  ด้านโลจิสติกส์  การท่องเที่ยว  และการบริการอื่น ๆ  นอกจากนี้ ยังช่วยยกระดับแรงงานในภาคอุตสาหกรรม  รองรับปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่คาดว่าจะรุนแรงขึ้นในอนาคต  ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมจะมอบให้ Center of Robotic Excellence (CoRE) เป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาบุคลากร  และยกระดับแรงงานให้มีทักษะที่สูงขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ให้มีความยั่งยืนและเกิดประโยชน์สูงสุด

นายศิริรุจ จุลกะรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.)  กล่าวว่า 14 หน่วยงานเห็นชอบร่วมกันในการผลักดันการดำเนินการให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม  โดยสนับสนุนการใช้หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติที่ผลิตภายในประเทศ สนับสนุน System Integrator (SI)  และต่อยอดงานวิจัยสู่การผลิตเชิงพาณิชย์  โดยกำหนดให้มีความร่วมมือต่าง ๆ คือ ผลักดันการใช้มาตรการพัฒนาอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ  พัฒนาบุคลากรให้กับผู้ประกอบการและร่วมกันพัฒนาต้นแบบอุตสาหกรรมเชิงพาณิชย์ สร้างและพัฒนาระบบนิเวศน์ เพื่อดึงดูดให้เกิดการลงทุนด้านหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในเขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ร่วมเผยแพร่งานวิจัยและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติสู่ภาคอุตสาหกรรม  บูรณาการเชื่อมโยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน  การคมนาคมขนส่งและสาธารณูปโภค  เพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาสู่อุตสาหกรรม 4.0 อุตสาหกรรมในประเทศมีการลงทุนนำหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติมาใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและบริการของไทยมูลค่าไม่ต่ำกว่า 12,000 ล้านบาท ในปี 2560 เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติภายในประเทศ และดำเนินการกิจกรรมอื่น ๆ ตามที่ 14 หน่วยงานจะให้สนับสนุนซึ่งกันและกัน

สำหรับบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้เป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่าง 14 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน  สำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก  การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติในประเทศไทย (CoRE)  สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย  บริษัท เอสซีจี จำกัด (มหาชน)  บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)  บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)  บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด  บริษัท สุพรัม โพรดักส์ จำกัด  บริษัท เควี อีเลคทรอนิกส์ จำกัด  และบริษัท ยาวาต้า (ประเทศไทย) จำกัด  เพื่อนำไปสู่การพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติสู่ภาคอุตสาหกรรมตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยิงสส.กัมพูชา

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” ดับกลางกรุงเทพฯ

ออกหมายจับชายไทย วัย 41 มือยิง ‘ลิม กิมยา” อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ดับใกล้วัดดังกลางกรุง พบเหยื่อมีบทบาทในการตรวจสอบรัฐบาลฮุนเซน

ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงเพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม

ครม. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดการประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา เพิ่มบุหรี่ไฟฟ้า-บารากู่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม พร้อมกำหนดบทลงโทษหากพบเข้าไปข้องเกี่ยว

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา-วอศ.สระบุรี ชนะเลิศแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025

สุดเจ๋ง! นศ.วอศ.เสาวภา และ วอศ.สระบุรี ชนะเลิศในการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ 2025 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน

ข่าวแนะนำ

พบ จยย.มือยิงอดีตนักการเมืองกัมพูชาจอดทิ้งปั๊ม คาดได้ตัวเร็วๆ นี้

ตำรวจตรวจพบรถจักรยานยนต์มือยิงอดีตนักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชาแล้ว จอดทิ้งไว้ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง บริเวณเลียบด่วนมอเตอร์เวย์ คาดได้ตัวคนร้ายเร็วๆ นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลพร้อมสนับสนุนเยาวชน พลังสำคัญของชาติ

นายกฯ มอบโอวาทเด็กและเยาวชนดีเด่น นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ขอให้ทุกคนภาคภูมิใจ มีสติ และรู้คุณค่าในตัวเอง มั่นใจเป็นพลังสำคัญให้กับประเทศชาติ ยืนยันรัฐบาลพร้อมสนับสนุนด้านการศึกษา และการประกอบอาชีพ

ซิงซิง

ผลมติพบ “ซิงซิง” ตกเป็นผู้เสียหายค้ามนุษย์-ปลอดภัยดี พร้อมกลับบ้าน

“ซิงซิง” ตกเป็นผู้เสียหายค้ามนุษย์ หลังผลมติคัดแยก-คัดกรองออกแล้ว ล่าสุดเจ้าหน้าที่ส่งตัวเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองแล้ว ให้ พม.ดูแลต่อ ขณะที่ทีมกฎหมายของดาราจีน เผยเจ้าตัวปลอดภัยดี พร้อมกลับบ้าน