สศช. 30 ส.ค.-รองนายกรัฐมนตรีระบุผู้เกี่ยวข้องไปหารือกัน หลังศาลให้ที่ดินอัลไพน์เป็นธรณีสงฆ์ แต่ไม่จำเป็นต้องออกพ.ร.บ.โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินสงฆ์
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงการดำเนินการหลังศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางพิพากษาให้ที่ดินอัลไพน์เป็นของธรณีสงฆ์ ว่า เร็วเกินไปที่จะตอบ เพราะเรื่องนี้ต้องให้ผู้เกี่ยวข้องอาทิ กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย กรมการศาสนา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติพิจารณาให้ดีว่าคดีมีอายุความอย่างไร และยังมีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ และจะยกเลิกเพิกถอนได้หรือไม่ด้วย
ส่วนผู้ที่อยู่อาศัยในที่ดินดังกล่าว ต้องย้ายออกจากพื้นที่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตามหลักการของกฎหมายจะไม่ดำเนินการใด ๆ ที่กระทบสิทธิของบุคคลใด ส่วนพระราชบัญญัติโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินสงฆ์ ไม่เคยมีมาก่อน และไม่มีความจำเป็นต้องออกกฎหมายดังกล่าว เพราะในอดีตเวลารัฐต้องการที่ดินของสงฆ์จะต้องมีพระราชบัญญัติโอน เช่นการทำถนน สะพาน หรือ ตลาด หรือแม้แต่เขื่อนภูมิพล
“แต่ภายหลังได้แก้กฎหมายคณะสงฆ์ในสมัยคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติเมื่อ 30 ปีมาแล้วให้สามารถออกเป็นพระราชกฤษฎีกาได้ โดยกำหนดว่าเวลารัฐจะใช้ที่ดินของสงฆ์ให้เริ่มจากการเจรจาขอทางวัด จากนั้นนำเรื่องเข้าสู่มหาเถรสมาคม หากมหาเถรสมาคมไม่อนุญาตก็จบ หากเห็นชอบก็เดินต่อตามหลักการแลกเปลี่ยนที่ดินของพระพุทธศาสนา แล้วจึงออกเป็นพระราชกฤษฎีกาต่อไป” นายวิษณุ กล่าว.-สำนักข่าวไทย