อสมท ยึดหลักธรรมาภิบาล เดินหน้าต้านคอร์รัปชัน

กรุงเทพฯ  29 ส.ค. – อสมท ยึดมั่นดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล เดินหน้าต่อต้านคอร์รัปชัน จับมือ 4 ภาคีหลัก เพิ่มความเข้มข้นควบคุมภายใน


จากกรณีศาลคดีทุจริตฯ กลางอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีไร่ส้ม โดยยืนตามศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรข่าวชื่อดังและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไร่ส้ม จำกัด เป็นเวลา 13 ปี 4 เดือน  นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาเกือบ 10 ปีแล้ว โดยเป็นผลจากการตรวจสอบของทีมงานภายใน อสมท และได้ดำเนินการแจ้งไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อฟ้องดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมาย แสดงให้เห็นว่า อสมท เป็นองค์กรที่มีธรรมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ 

ทั้งนี้ อสมท ได้ดำเนินการยกระดับการส่งเสริมธรรมาภิบาลให้กับองค์กรอย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำแผนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตมาจัดทำแผนที่ใช้ในทางปฏิบัติได้จริง ยกระดับคุณธรรมและความโปร่งใส พร้อมบูรณาการระบบรับเรื่องร้องเรียนและติดตามผล รวมถึงส่งเสริมวัฒนธรรมการต่อต้านการทุจริตในองค์กรอีกด้วย นอกจากนี้ อสมท ยังแสดงเจตนารมณ์ในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน จากการลงนามบันทึกข้อตกลงกับ ป.ป.ช., สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และผู้แทนรัฐวิสาหกิจ 50 แห่ง เพื่อเพิ่มกระบวนการตรวจสอบภายในและให้พนักงานเข้าใจและเรียนรู้การทำงานแบบโปร่งใส 


นายเขมทัตต์ กล่าวว่า ผลจากการให้ความสำคัญกับการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันอย่างจริงจังของ อสมท ส่งผลให้ อสมท ได้รับประกาศนียบัตรรับรองฐานะสมาชิกแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต (CAC) ซึ่งส่งผลให้หุ้น MCOT เป็น 1 ใน 80 บริษัท จาก 601 บริษัทในปี 2559 ที่มีธรรมาภิบาลเด่นระดับ 5 ดาว, ได้รับรางวัลช่อสะอาดจาก ป.ป.ช ในฐานะหน่วยงานที่มีส่วนสนับสนุน ส่งเสริม การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ด้วยการสร้างสรรค์ผลงานด้านสื่อที่มีเนื้อหาในการปลูกฝังและส่งเสริมคุณธรรม ตลอดจนป้องกันและปราบปรามการทุจริต รวมทั้งผลประเมินการกำกับดูแลกิจการบริษัทไทย ประจำปี 2559 (CGR) อสมท มีผลการประเมินอยู่ในระดับดีเลิศ 93% และสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยของบริษัทจดทะเบียนโดยรวม นอกจากนี้ อสมท ยังได้รับผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) โดยมีผลประเมินอยู่ในระดับสูงมาก หรืออยู่ในอันดับที่ 44 จาก 140 หน่วยงาน โดยคะแนน ITA  ซึ่งเป็นมาตรฐานเกณฑ์ชี้วัดความโปร่งใสของ ป.ป.ช. อีกด้วย

สำหรับปี 2560 นี้ อสมท ได้เพิ่มความเข้มข้นในการควบคุมภายใน โดยลงนามร่วมกับ 4 ภาคีหลัก คือ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ป.ป.ท. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และศูนย์พัฒนานวัตกรรมต่อต้านคอร์รัปชัน โดยนำมาเป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการ เพื่อขยายแนวทางไปสู่คู่ค้า ลูกค้า และแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน อันจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันการทุจริตคอรัปชันอย่างยั่งยืน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง. เข้าสู่วันที่ 24 แล้ว เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว