รัฐสภา 25 ส.ค.- “มีชัย”ระบุ “ยิ่งลักษณ์” มีสิทธิอุทธรณ์คดีได้ใน 30 วันหลังศาลฯอ่านคำพิพากษา แต่ต้องมาปรากฎตัวที่ศาล ยอมรับหากกฎหมายใหม่มีผลบังคับใช้หลังกำหนดอุทธรณ์ ถือว่าคดีสิ้นสุด และต้องนับอายุความตามโทษ
นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงกรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ไปปรากฎตัวที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามนัดในวันนี้ (25 ส.ค.)ว่า จะต้องรอดูในวันที่ศาลฯเลื่อนนัดไปอ่านคำพิพากษาในวันที่ 27 ก.ย.ก่อนว่าวันนั้นจะมาหรือไม่ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายเดิมที่ให้เวลา 30 วัน หากไม่มาปรากฎตัว ศาลฯ สามารถอ่านคำพิพากษาได้ทันที และจำเลยมีเวลา 30 วันในการอุทธรณ์ ซึ่งมีสิทธิอุทธรณ์ได้ทุกกรณีตามรัฐธรรมนูญ แต่เจ้าตัวจะต้องปรากฎตัวที่ศาล หากยังไม่มา ก็ถือว่าไม่อุทธรณ์และถือว่าคดีสิ้นสุดแล้ว
ประธาน กรธ. กล่าวว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว หากพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ยังไม่ประกาศใช้ ก็จะต้องนับอายุความตามคำพิพากษาของศาล ซึ่งขึ้นอยู่กับโทษว่าจะมีเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามหากช่วงก่อนหน้านี้กฎหมายฯ มีผลบังคับใช้ก่อน ก็จะต้องยึดตามกฎหมายใหม่ คือไม่มีอายุความในกรณีที่จำเลยหลบหนี อย่างไรก็ตามการที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่เดินทางไปปรากฎตัวที่ศาล จนมีการออกหมายจับ ก็ต้องถือว่ามีความผิดฐานหนีศาล แม้ว่าผลการตัดสินในคดีจำนำข้าวจะออกมาว่าถูกหรือผิดก็ตาม
สำหรับอนาคตทางการเมืองของน.ส.ยิ่งลักษณ์นั้น นายมีชัย กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของศาลว่าจะออกมาอย่างไร หากตัดสินว่าไม่ผิด ก็สามารถกลับเข้าสู่การเมืองได้ แต่เจ้าตัวก็ต้องมาลงสมัครด้วยตัวเอง แต่หากถูกตัดสินว่าผิด ไม่ว่าจะมีโทษจำคุกหรือไม่ก็ตาม ถือว่าจะถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต เพราะความผิดฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่อยู่ในฐานความผิดในคุณสมบัติต้องห้ามของส.ส.ตามรัฐธรรมนูญ.-สำนักข่าวไทย