พรรคเพื่อไทย 25 พ.ค. – “เพื่อไทย” สงสาร “ยิ่งลักษณ์” คดีจำนำข้าว เตรียมใช้ช่องทางกฎหมายสู้ต่อ เห็นช่องขายข้าว 18.9 ล้านตัน เป็นหลักฐานขอให้ศาลปกครองพิจารณาพิพากษาคดีใหม่ เพราะยังไม่เคยเข้าสู่กระบวนการ เล็งเสนอถกกฎหมายนิรโทษกรรม 9 ก.ค. หลังเปิดสภา
นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า พรรคเพื่อไทยห่วงใยและสงสาร นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีรับจำนำข้าว เพราะทราบดีว่าเป็นคดีที่เกิดขึ้น ในช่วงการปฏิวัติรัฐประหาร และเป็นหนึ่งในเหตุผลของการยึดอำนาจนางสาวยิ่งลักษณ์ ในปี 2557 ซึ่งเวลาผ่านไปกว่า 10 ปีเชื่อว่า นางสาวยิ่งลักษณ์มีทีมกฎหมายทีมทนายที่ร่วมต่อสู้คดี และเมื่อคดีถึงที่สุดทางพรรคเพื่อไทยเองก็ต้องน้อมรับ คำตัดสินและจะใช้ช่องทางทางกฎหมายเท่าที่เหลืออยู่ต่อสู้ในคดีนี้ต่อไป ทางพรรคเองเป็นกำลังใจให้นางสาวยิ่งลักษณ์ หลังคดีตัดสินมีการสอบถามมายังพัรรคเยอะมาก จึงได้มีการพูดคุยกับฝ่ายกฎหมายและผู้ใหญ่ของพรรค ซึ่งพบว่าคดีนี้ยังมีช่องทางที่ยังพอต่อสู้คดีได้ เมื่อเดือนกรกฎาคมของ ปีที่แล้ว มีการขายข้าว 18.9 ล้านตันซึ่งจะเป็นหลักฐานใหม่ที่จะนำไปสู่การขอให้ศาลปกครอง พิจารณาพิพากษาคดีหรือมีคำสั่งชี้ขาดได้ภายใน 90 วันตามมาตรา 75 แห่งพระราชบัญญัติการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครองพ.ศ.2542 โดยหลักฐานใหม่นี้เป็นการขายข้าวปีที่แล้ว ที่ยังไม่ได้หยิบยกเข้ามาพิจารณาคดี พรรคเพื่อไทยจึงมองว่าเป็นหลักฐานใหม่ที่ยังไม่เข้าสู่กระบวนการพิจารณา จึงจะใช้ช่องทางทางกฎหมาย ในการต่อสู้ต่อไป
“คดีนี้เกิดขึ้นในช่วงปฏิวัติยึดอำนาจ ผู้นำในขณะนั้นใช้อำนาจตามมาตรา 44 หลายฉบับ ซึ่งเกี่ยวข้องกับคดีจำนำข้าว แต่แน่นอนว่าเราจะสู้กันไปโดยใช้หลักฐานตามช่องทางกฎหมาย” นายดนุพร กล่าว
ส่วนที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์พรรคเพื่อไทยหลังมีคำพิพากษาว่า เพจของพรรคมีการลงเรื่องราวเกี่ยวกับนางสาวยิ่งลักษณ์นั้น นายดนุพรกล่าวว่า นโยบายจำนำข้าวเป็นนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทยในการหาเสียงเมื่อปี 2554 ส่วนหนึ่งที่ชนะการเลือกตั้งเข้ามาจากนโยบายนี้ อีกทั้งได้มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยนางสาวยิ่งลักษณ์ว่าเป็นนโยบายหลักที่จะทำให้เกษตรกรชาวนาลืมตาอ้าปากได้ จึงเป็นเหตุจำเป็นที่พรรคเพื่อไทยต้องลงชี้แจง พูดถึงข้อเท็จจริงในเรื่องของคดีนี้ ว่าท่านไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างไร
ส่วนที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์คดีมาตรา 112 นายดนุพรกล่าวว่าในช่วงการ เปิดสมัยประชุมสภาฯ 3 กรกฎาคม วันที่ 9 กรกฎาคมจะมีการพิจารณากฎหมายนิรโทษกรรม ดังนั้นไม่อยากให้ถกเถียงนอกสภาว่ามาตรา 112 เป็นการเมืองหรือไม่ เมื่อมาถึงขั้นตอนพิจารณา จะนำเรื่องนี้ไปพูดคุยถกเถียงอธิบายกันในสภา เพื่อหาข้อสรุปต่อไป
ส่วนกรณีที่มีนักกฎหมายบางคน ให้ความเห็นว่า การขายข้าวไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานใหม่ได้ นายดนุพรมองว่า เป็นเรื่องที่ศาลจะพิจารณา แต่จะพยายามรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่นหนาที่สุดและขอความเมตตาจากศาล.-319 -สำนักข่าวไทย