ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 25 ส.ค.- ศาลออกหมายจับ “ยิ่งลักษณ์” ไม่มาศาล ไม่เชื่อป่วย น้ำในหูไม่เท่ากัน ริบเงินประกัน 30 ล้าน นัดฟังคำพิพากษา 27 ก.ย.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีกลุ่มมวลชนทยอยเดินทางมารอให้กำลังใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บริเวณสวนหย่อมด้านหน้าอาคารศูนย์ราชการ อาคารเอ ซึ่งเป็นจุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จัดไว้ให้ตามแผนการรักษาความปลอดภัยของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ที่ใช้แผนกรกฎ 52 เข้าดูแลความปลอดภัยโดยรอบอาคารศูนย์ราชการ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่อยู่ทิศตะวันตกของตัวอาคาร โดยใช้กำลังผสมที่ระดมตำรวจจากในพื้นที่ตำรวจนครบาลและต่างจังหวัดเข้ามาช่วยดูแล ประกอบกับการใช้ตำรวจนอกเครื่องแบบ และกองร้อยน้ำหวานดูแลผู้ชุมนุมที่เป็นสุภาพสตรี
ก่อนเวลานัดของศาล ปรากฏว่ามีแกนนำพรรคเพื่อไทย ที่เป็นอดีตรัฐมนตรี อดีตส.ส. ทยอยเดินทางมาฟังคำพิพากษา ซึ่งส่วนใหญ่มารออดีตนายกรัฐมนตรีที่บริเวณหน้าศาลเหมือนเช่นทุกครั้ง เช่นเดียวกับสื่อมวลชน ทั้งไทยและต่างประเทศที่มาปักหลักรายงานบรรยากาศและความเคลื่อนไหวกันตั้งแต่เช้าตรู่ เพราะถือว่าวันนี้เป็นวันสำคัญในการตัดสินคดี จากการสู้คดีมา 2 ปี 6 เดือน ทั้งนี้แกนนำพรรคเพื่อไทยและสื่อมวลชนที่เข้ามาบริเวณหน้าศาลฎีกาจะต้องแจ้งรายชื่อให้เจ้าหน้าที่ศาลรับทราบโดยเฉพาะผู้ที่จะเข้าไปรับฟังการอ่านคำพิพากษา จะต้องผ่านการคัดกรองอย่างละเอียดเป็นไปตามแผนการรักษาความปลอดภัย
โดยก่อนเข้ารับฟังคำพิพากษา นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีพานิชย์ จำเลยที่ 1 ของคดีร่วมกันทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจี และนายภูมิ สาระผล จำเลยที่ 2 ได้เดินทางมาศาลด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมระบุ จะรับฟังไม่ว่าคำพิพากษาจะออกมาอย่างไร โดยที่ผ่านมา ได้สู้คดีอย่างเต็มที่แล้ว
และเมื่อถึงเวลา 9.30น. ซึ่งเป็นเวลานัดของศาลที่ให้คู่กรณีทั้ง 2 คดี มาในเวลาพร้อมกัน ก็ปรากฏว่า ไม่พบว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมารับฟังคำพิพากษา ศาลจึงได้พิจารณาคำขอของทนายที่ได้ยื่นคำร้องว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ป่วยด้วยโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน มีอาการวิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรง จึงไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ และขอเลื่อนการฟังคำพิพากษา ขณะที่โจทก์หรืออัยการสูงสุดได้แถลงคัดค้าน ว่าไม่เชื่อว่าจำเลยป่วยจริง เนื่องจากไม่มีใบรับรองแพทย์ และอาการป่วยที่อ้างก็ไม่ถึงขนาดที่จะมาศาลไม่ได้
จากนั้นศาลได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ไม่เชื่อว่าเจ็บป่วยจนถึงขนาดมาศาลไม่ได้ พฤติการณ์ มีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเลยหลบหนี จึงให้ออกหมายจับจำเลยและปรับนายประกันเต็มตามสัญญา คือ 30 ล้านบาท พร้อมสั่งเลื่อนฟังคำพิพากษาเป็นวันที่ 27 กันยายน 2560 เวลา 9.00 น.
ขณะที่ นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาทางกฎหมายตระกูลชินวัตร กล่าวว่า ไม่สามารถให้ข้อมูลได้มาก และขอให้ทีมทนายความที่รับผิดชอบคดีเป็นผู้ให้ข้อมูลเท่านั้น
ด้านนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ได้รับการติดต่อจากทีมงานของน.ส.ยิ่งลักษณ์ เมื่อเวลา 08.00 น. ว่าป่วยแต่ไม่ได้ติดต่อมาก่อนหน้านี้ ส่วนกระบวนการต่อไปจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่ที่กระบวนการของศาล
ด้านพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะยังคงตรึงกำลังจนกว่ามวลชนจะเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย พร้อมกับการระวังไม่ให้เกิดการสร้างสถานการณ์จากผู้ไม่หวังดี ทั้งนี้เชื่อว่าทุกฝ่ายจะร่วมมือกันให้เกิดความสงบเรียบร้อยในที่สุด อย่างไรก็ตามผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้ลงไปพบปะกับกลุ่มมวลชนในจุดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำหนด พร้อมมั่นใจว่าจากการประสานงานในระดับแกนนำและที่พูดคุยกับประชาชนที่เดินทางมาทั้งหมด พร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติตัวให้เป็นไปตามกฎหมาย จึงเชื่อว่าไม่น่าจะมีสถานการณ์อะไรที่น่าเป็นห่วง
อย่างไรก็ตามแม้ศาลจะออกหมายจับและเลื่อนการฟังคำพิพากษาของอดีตนายกรัฐมนตรีแต่ในส่วนคดีของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์กับพวก รวม 21 คน ศาลยังคงอ่านคำพิพากษาเนื่องจากจำเลยในคดีดังกล่าวเดินทางมาศาล.-สำนักข่าวไทย