แนวทางพิพากษาคดีจำนำข้าว ชี้ชะตา “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”

กทม. 24 ส.ค. – นับถอยหลังคดีทุจริตรับจำนำข้าวที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นจำเลย ซึ่งวันพรุ่งนี้ (25 ส.ค.) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะอ่านคำพิพากษา รวมถึงคดีซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ซึ่งมีอดีตรัฐมนตรีรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ข้าราชการและเอกชนร่วมเป็นจำเลยรวม 28 คน


ทุกสายตาจับจ้องที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จากข้อกล่าวหาว่าโครงการจำนำข้าวเป็นการทุจริตเชิงนโยบาย สร้างความเสียหายเป็นแสนล้านบาท เป็นชนวนเหตุหนึ่งที่ทำให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ทำการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 


นับจาก 5 มิ.ย. 56 พรรคประชาธิปัตย์ยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าว และมีมติเป็นเอกฉันท์ไต่สวนและยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิจารณาคดีครั้งแรก 19 พ.ค. 58  และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ 30 ล้านบาท ศาลตรวจหาหลักฐานและไต่สวนพยานบุคคลครั้งแรก  15 ม.ค.59 เรื่อยมากระทั่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ แถลงปิดคดีด้วยวาจาเมื่อ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา


กินเวลาเกือบ 2 ปี 6 เดือน 24 วัน ไต่สวนพยานโจทก์ 10 นัด 15 ปาก พยานจำเลย 16 นัด 30 ปาก เสร็จสิ้นเมื่อ 21 ก.ค.60 ก่อนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แถลงปิดคดีด้วยวาจาในวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่สุดแล้วศาลจะมีคำพิพากษาในวันที่พรุ่งนี้ (25 ส.ค.) 

แต่เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆ เพราะวันพรุ่งนี้ไม่ใช่ “จุดปลายทาง” ที่แท้จริง มองข้ามชอตคำพิพากษาขององค์คณะผู้พิพากษาว่าจะ “ลงโทษความผิดตามฟ้อง” หรือจะ “ยกฟ้อง” น.ส.ยิ่งลักษณ์

แนวทางของคดีนี้ หากศาลยกฟ้อง นั่นหมายความว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะพ้นผิด ส่วนกรณี ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด และส่งเรื่องให้กรมบังคับคดีตรวจสอบทรัพย์สินอยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนในขณะนี้

แต่ทางกลับกัน ความเป็นไปได้ของคดีนี้น่าจะอยู่ที่ศาลมีคำพิพากษาให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ มาตรา 123/1 ที่ปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริต รัฐเสียหายกว่า 500,000 ล้านบาท อัตราโทษสูงสุดที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อาจจะได้รับ คือ จำคุก 1-10 ปี หรือปรับ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจศาลว่าจะวินิจฉัยความผิดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แยกได้ 2 กรณี คือ 1. ให้รอลงอาญา เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี มีคุณงามความดีต่อประเทศชาติบ้านเมือง ซึ่งขึ้นอยู่ดุลยพินิจของศาล และ 2.พิจารณาลงโทษทางอาญา ตามที่ศาลมีคำตัดสินจำคุกกี่ปี ปรับเงินเท่าไร หรืออาจจะทั้งปรับทั้งจำคุก 

นี่คือการคาดการณ์แนวทางการพิจารณาคดีของศาลซึ่งมีความเป็นไปได้ทั้ง 3 แนวทาง ทั้งยกฟ้อง มีความผิดแต่ให้รอลงอาญา หรือลงโทษทางอาญาตามที่ศาลมีคำตัดสิน

ทั้งนี้ หากต้องรับโทษทางอาญา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังพอมีความหวัง สามารถยื่นขอ “อุทธรณ์คำพิพากษา” ต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา เพราะหนทางตามรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 195 วรรค 4 ได้เปิดให้โอกาสคู่ความสามารถต่อสู้คดีได้ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่ศาลมีคำพิพากษา Deadline นี้คือไม่เกินวันที่ 24 กันยายนนี้

หากใช้บรรทัดฐานนี้จะมี “ปลายทาง” อยู่ 2 ทางเช่นกัน คือ 1.ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาฯ มีมติ “ไม่รับการอุทธรณ์” น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็ต้องรับโทษตามคำพิพากษา 2.ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาฯ มีมติให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ “อุทธรณ์คดี” ซึ่งจะขึ้นอยู่กับขั้นตอนการพิจารณาตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

พายุฝนพัดต้นยางอายุร่วม 100 ปี ทับโรงครัววัดพังราบ

พายุฝนลมกระโชกแรง ซัดต้นยางอายุร่วม 100 ปี วัดนางเหลียว ล้มทับโรงครัวพังเสียหาย ชาวบ้านในงานศพตื่นตระหนก วิ่งหนีกระเจิง

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง. เข้าสู่วันที่ 24 แล้ว เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง