กระบี่ 23 ส.ค.- ตำรวจกระบี่ส่งสำนวนคดีสังหารผู้ใหญ่บ้านวรยุทธ สังหลัง และครอบครัว รวม 8 ศพ ให้อัยการแล้ว โดยจะยังไม่ส่งฟ้องต่อศาลภายในวันนี้
เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า ทางพนักงานอัยการ ซึ่งได้รับสำนวนการสอบสวนคดีสังหารผู้ใหญ่บ้านวรยุทธ สังหลัง และครอบครัว เสียชีวิตรวม 8 ศพ จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะยังไม่ส่งฟ้องต่อศาลภายในวันนี้ โดยโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ระบุว่า หลังจากนี้จะตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูแลคดีนี้โดยเฉพาะ คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งในการพิจารณา ก่อนที่จะส่งฟ้องต่อศาล
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา และ พล.ต.ท.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เดินทางนำสำนวนการสอบสวนคดีนายซูริก์ฟัต บ้านนบวงศ์สกุล หรือ บังฟัต พร้อมพวกรวม 8 คน ร่วมกันสังหารหมู่ครอบครัวนายวรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ พร้อมสมาชิกในครอบครัว เสียชีวิตรวม 8 ศพ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นแฟ้มเอกสารทั้งหมด 114 รายการ รวม 2,382 แผ่น มามอบให้กับพนักงานอัยการจังหวัดกระบี่ โดยมีนายสมชาย อู่ทอง รองอธิบดีอัยการภาค 8 ร.ท.สมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และนายพิเชษฐ์ เชาว์กิจค้า อัยการจังหวัดกระบี่ รับสำนวนการสอบสวน ก่อนจะร่วมกับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
ร.ท.สมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยหลังได้รับสำนวนการสอบสวนว่า ทางสำนักงานอัยการจะตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูแลคดีนี้ จำนวน 4 คน โดยจำเป็นต้องใช้เวลาอีกระยะในการพิจารณาสำนวนการสอบสวนที่ตำรวจรวบรวมส่งมาให้ และเร็วเกินไปที่จะตอบว่า พนักงานอัยการจะตีสำนวนกลับให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบเพิ่มหรือไม่อย่างไร
อย่างไรก็ตาม ให้ความเชื่อมั่นว่า พนักงานอัยการจะดูแลและพิจารณาสำนวนการสอบสวนอย่างรอบคอบและรัดกุมที่สุด เพื่อให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษตามที่กฏหมายกำหนด พร้อมกับจะเร่งนำสำนวนการสอบสวนทั้งหมดส่งฟ้องศาลโดยเร็ว เบื้องต้นจากการพูดคุยพบว่า เจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาหนักไว้หลายข้อหาด้วยกัน โดยเฉพาะข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอัตราโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต เบื้องต้นคาดว่าคณะทำงานอาจส่งสำนวนฟ้องต่อศาลได้ภายในเดือนนี้ แต่อาจไม่ทันวันที่ 25 สิงหาคมนี้ ซึ่งจะครบกำหนดการฝากขังผัดที่ 3 สำหรับคดีนี้ตำรวจใช้เวลาในการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ทั้งสิ้น 36 วัน ซึ่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มั่นใจว่า รวบรวมหลักฐานมากพอที่จะเอาผิดบังฟัตและพวกให้ได้รับโทษทางกฏหมาย.-สำนักข่าวไทย
