กรุงเทพฯ 20 ส.ค.- “สุริยะใส” ห่วง 2 รอยต่อปฎิรูปทำเสียของ จี้ คสช.- กก.ปฏิรูปเร่งสร้างผลงานหวั่นกรรมการเยอะทำสังคมสับสน
นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย(สปท.) กล่าวถึงกระบวนการปฏิรูปในขณะนี้ว่า มี 2 ส่วน คือส่วนที่ถูกกำหนดโดยรัฐธรรมนูญ ปี2560 และส่วนที่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลและแม่น้ำ 5 สาย และช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง ก็เป็นช่วงที่เปลี่ยนผ่านการขับเคลื่อนการปฏิรูปจากแม่น้ำ 5 สายไปอยู่ในมือของคณะกรรมการชุดต่าง ๆ ที่ตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญ ทำให้เกิดสภาวะรอยต่อของกระบวนการปฏิรูปก่อนเลือกตั้งขึ้น ซึ่ง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)และแม่น้ำทั้ง 4 สาย จากเดิม 5 สาย แต่ตอนนี้ สภาขับเคลื่อนการปฎิรูปประเทศ (สปท.) หมดวาระลงตามรัฐธรรมนูญแล้วต้องมีความชัดเจนในเป้าหมายที่เป็นรูปธรรม ไม่ใช่ปล่อยให้ไปอยู่ในมือของคณะกรรมการคณะต่างๆ ทั้งหมด เพราะยังไงเสียคสช.เข้ามาด้วยเจตนาที่จะปฏิรูปก่อนเลือกตั้งก็ต้องทำให้เกิดเป็นรูปธรรม
นายสุริยะใส กล่าวว่า ตนไม่อยากให้ คสช.โยนไปให้กลไกหรือกรรมการชุดอื่น ๆ ไปเสียทั้งหมดเพราะการปฎิรูปในบางเรื่องก็สามารถลงมือดำเนินการได้เลยในรัฐบาลชุดนี้ ไม่จำเป็นต้องรอรัฐธรรรมนูญหรือรอกฎหมายลูก เพราะมีข้อเสนอมากมายจากสภาปฎิรูปแห่งชาติ (สปช.) และ สปท.ที่ส่งมอบให้รัฐบาลไปแล้วก่อนหน้านี้และรอยต่อที่สำคัญของการปฏิรูปที่จะเกิดขึ้นและน่าห่วงกว่าคือช่วงรัฐบาลใหม่หลังเลือกตั้งไม่มีใครคาดการณ์ได้ล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้น การปฏิรูปจะเดินหน้าต่อได้หรือไม่แม้จะมีกลไกกำกับไว้ในกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญก็ตาม
“จุดยืนของฝ่ายบริหารต่อการปฏิรูปก็มีความสำคัญ แม้การปฏิรูปในบางเรื่องต้องใช้เวลาแต่ประชาชนก็อยากเห็นรูปธรรมซักเรื่อง ไม่ใช่มีแต่กรรมการเยอะแยะไปหมดจนทำให้สังคมสับสนและไม่รู้ว่าต้องเรียกร้องเอากับใคร” นายสุริยะใส กล่าว.-สำนักข่าวไทย