มหาสารคาม 9 ส.ค.-ชาวบ้านริมแม่น้ำชีในพื้นที่ จ.มหาสารคาม ทำใจรับสภาพน้ำอาจท่วมที่นาไปจนสิ้นสุดหน้าฝน ขณะที่ถุงยังชีพจากเงินประชาชนทั่วประเทศที่บริจาคผ่านบัญชี “อสมท ช่วยผู้ประสบภัย สานใจประชารัฐ” ได้ทยอยถึงมือผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ
ชาวบ้านใคร่นุ่น หมู่ 10 ต.มะค่า อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ต้องใช้เรือสัญจรเข้าออกหมู่บ้านราว 2 กิโลเมตร มากว่า 2 สัปดาห์แล้ว เกิดจากอิทธิพลของพายุเซินกา ที่ทำให้ฝนตกหนักทั่วภาคอีสาน หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำชี รับน้ำมาจากชัยภูมิและขอนแก่น น้ำล้นตลิ่งไหลทะลักเข้าท่วมบ้านบางส่วน และพื้นที่ทางการเกษตรเสียหายทั้งหมด ในจำนวน 86 ครัวเรือน มีราษฎรถูกน้ำท่วมบ้าน 10 หลังคาเรือน แต่ทั้งหมดล้วนถูกน้ำโอบล้อมกลายเป็นเกาะกลางน้ำ
ปีนี้น้ำมาเร็วและแรง ชาวบ้านที่นี่เกือบทั้งหมดทำนาปรังเลี้ยงชีพ หากน้ำไม่ท่วม อีกไม่กี่วันข้างหน้า พวกเขาก็จะได้เก็บเกี่ยวข้าว ปัจจุบันระดับน้ำชีสูงกว่าตลิ่งราว 80-150 เซนติเมตร ชาวบ้านได้แต่ทำใจว่า น้ำคงท่วมนาข้าวไปจนสิ้นสุดหน้าฝน และอาจมีมวลน้ำมาซ้ำเติมอีกในช่วงปลายฤดูกาล
กองพันทหารช่างที่ 6 ค่ายสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า จ.ร้อยเอ็ด ส่งกำลังพล 13 นาย มาช่วยเหลือชาวบ้านได้ 3 วันแล้ว โดยใช้เรือยาง 2 ลำ รับส่งเด็กนักเรียน ต่อด้วยรถบรรทุกของทหารพาเด็กๆ ไปส่งถึงโรงเรียน
วัดป่าอาศิราวาส เกาะเกิ้ง ต.เกิ้ง อ.เมืองมหาสารคาม เป็นอีกจุดที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างหนัก จนพระสงฆ์ 7 รูป ไม่สามารถอยู่ในวัดได้ ต้องออกมาจำวัดและปฏิบัติศาสนกิจที่ศาลากลางน้ำ โดยเฉพาะเวลาเข้าห้องน้ำ พระต้องใช้เรือพายเข้าไป
จ.มหาสารคาม ประสบอุทกภัย 12 อำเภอ สถานการณ์รุนแรง 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง กันทรวิชัย โกสุมพิสัย และพยัคฆภูมิพิสัย ราษฎรถูกน้ำท่วมบ้านกว่า 200 หลังคาเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหายเกือบ 600,000 ไร่.-สำนักข่าวไทย