กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – กกพ.เปิดประชาพิจารณ์เพิ่มประเภทจัดเก็บค่าสำรองไฟฟ้า สำหรับกลุ่มใหม่หรือกลุ่มใช้ไฟฟ้า (USER ) ที่หันมาผลิตไฟฟ้าใช้เองมากขึ้น ยกเว้นพลังงานลม-แสงอาทิตย์ กำหนดให้ซื้อค่าสำรอง 1/3 ของกำลังผลิต
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า กกพ.เปิดรับฟังความคิดเห็นร่างหลักเกณฑ์การปรับปรุงอัตราค่าไฟฟ้าสำรอง (Backup Rate) เพื่อใช้เป็นการชั่วคราว ระหว่างวันที่ 4 -18 สิงหาคมนี้ โดยเพิ่มเติมอัตราค่าไฟฟ้าสำรองเป็นกลุ่มที่ 3 คือ กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าที่ผลิตไฟฟ้าใช้เองจากเดิมที่ 2 กลุ่มแรกเป็นผลิตผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่าย เช่น ผู้ผลิตไฟฟ้าเอสพีพี เป็นต้น และ กลุ่มที่ 3 จะไม่ครอบคลุม โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม ซึ่งจะก่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้ง 3 การไฟฟ้าที่ต้องลงทุนเพื่อสร้างระบบป้อนแก่กลุ่ม 3 ที่เดิมเป็นกลุ่มที่เป็นลูกค้าอยู่แล้วที่ และกลุ่ม 3 ที่จะสามารถต่อเชื่อมระบบไฟฟ้าสร้างความมั่นคงด้านพลังงานได้
“อัตราที่กำหนดสำหรับกลุ่ม 3 เป็นอัตราอ้างอิงของกลุ่ม 1 และ 2 แต่กำหนดเพิ่ม คือ จ่ายค่าสำรอง 1 ใน 3 ของกำลังผลิต โดยโรงไฟฟ้าส่วนใหญ่ที่เข้าข่ายกลุ่ม 3 คือ กลุ่มโรงงานที่ใช้ก๊าซธรรมชาติผลิตไฟฟ้าและผลิตไอน้ำที่เรียกว่าระบบโคเจนเนอเรชั่น อย่างไรก็ตาม อัตราชั่วคราวนี้จะเปลี่ยนแปลงก็ต่อเมื่อมีการปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้าใหม่ในปีหน้า” นายวีระพล กล่าว
ทั้งนี้ ในรายละเอียกการรับฟังความคิดเห็นของ กกพ. กำหนดไว้ว่ากรณีที่ 3 เดิมเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าและผลิตไฟฟ้าใช้เองบางส่วน หรือ มีความต้องการพลังไฟฟ้าเฉลี่ยใน 15 นาทีจากทุกแหล่งรวมกันสูงสุดตั้งแต่ 30 กิโลวัตต์ขึ้นไป ที่มีการผลิตหรือจัดหาไฟฟ้าหลังเครื่องวัดบางส่วนและมีความต้องการใช้ไฟฟ้าผ่านเครื่องวัดบางส่วน เพื่อเสริมปริมาณการผลิตของแหล่งไฟฟ้าหลังเครื่องวัดในเวลาปกติ รวมถึงเพื่อสำรองไว้ทดแทน ในเวลาที่แหล่งไฟฟ้านั้นขัดข้องในการผลิตไฟฟ้า หรือหยุดซ่อมแซม หรือบำรุงรักษา ตามแผนงานที่ได้แจ้งการไฟฟ้าไว้ โดยต่อผ่านเครื่องวัดไฟฟ้าเครื่องเดียว
โดยอัตราค่าไฟฟ้าสำรองสำหรับกรณีที่ 3 ให้จัดเก็บในอัตราเดียวกับกรณีที่ 2 คือผู้ใช้ไฟฟ้ามีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าของตนเองที่เป็นการผลิตพลังงานไฟฟ้าร่วมกับพลังงานความร้อน (Cogeneration) โดยต่อผ่านเครื่องวัดไฟฟ้า(มิเตอร์) เครื่องเดียว จะมีอัตราจัดเก็บตามระดับแรงดันต่ำ อยู่ที่ 33.22 บาทต่อกิโลวัตต์,ระดับแรงดันกลาง อยู่ที่ 29.44 บาทต่อกิโลวัตต์ และระดับแรงดันสูง อยู่ที่ 26.36 บาทต่อกิโลวัตต์
ส่วนกรณีที่ใช้ระบบผลิตประเภทอื่นให้ใช้อัตราค่าไฟฟ้าสำรองเช่นเดียวกับกรณีที่ 1 คือผู้ใช้ไฟฟ้ามีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าของตนเองและใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าของตนเองเป็นหลัก (Self-gen) จะมีอัตราจัดเก็บตามระดับแรงดันต่ำ อยู่ที่ 66.45 บาทต่อกิโลวัตต์, ระดับแรงดันกลาง อยู่ที่ 58.88 บาท และระดับแรงดันสูง อยู่ที่ 52.71 บาทต่อกิโลวัตต์ โดยหลังจากเปิดรับฟังความคิดเห็นครบ 15 วันตามกฎหมายแล้ว และหากไม่มีข้อขัดแย้งใด ๆ ทางการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) หรือ กฟภ. จะดำเนินออกประกาศจัดเก็บ Backup Rate ได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้ .-สำนักข่าวไทย