เพื่อไทยค้าน กรธ.ยกเลิกหมายเลขผู้สมัครเบอร์เดียวกันทั้งประเทศ

กรุงเทพฯ 6 ส.ค.- “นพดล” ไม่เห็นด้วยแนวคิดการยกเลิกให้ผู้สมัครจากพรรคเดียวกันใช้เบอร์เดียวกันทั้งประเทศ


นายนพดล ปัทมะ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เสนอในการร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ให้ผู้สมัครในเขตจับสลากเบอร์ในแต่ละเขต และจะไม่ใช้เบอร์เดียวกันทั้งประเทศเหมือนในอดีต โดยอ้างว่าเพื่อให้ผู้สมัครในเขตแสดงความสามารถของตนนั้น ส่วนตัวไม่เห็นด้วย เพราะวิธีการเดิมมีข้อดีและใช้มานาน การใช้เบอร์เดียวกันของพรรคเดียวกันทั้งประเทศ จะทำให้ประชาชนจำได้ง่ายว่าจะสนับสนุนพรรคและผู้สมัครของพรรคใด ไม่สับสน ลดปัญหาบัตรเสีย ประชาชนแสดงเจตจำนงได้ถูกต้องตรงใจ ไม่ก่อให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างพรรคการเมือง 

นายนพดล กล่าวว่า ในอดีตการเลือกตั้งกาได้สองบัตร แต่ปัจจุบันกาได้บัตรเดียว คือเลือกตัวผู้สมัครในเขตเท่านั้น แล้วนำบัตรทั้งหมดมาคำนวณจำนวน ส.ส.ที่แต่ละพรรคจะได้ที่นั่งทั้งประเทศ รวมทั้ง ส.ส.แบบปาร์ตี้ลิสต์ด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้ ในวันเลือกตั้งประชาชนจึงต้องพิจารณาทั้งตัวผู้สมัครและพรรคที่สังกัดพร้อมกันไปด้วย ไม่ใช่ดูตัวบุคคลอย่างเดียว และอาจต้องให้น้ำหนักตัวพรรคเป็นสำคัญ 


“ดังนั้นการให้ผู้สมัครจากพรรคการเมืองได้เบอร์เดียวกันทั้งประเทศ จึงตอบโจทย์การเลือกตั้งแบบใหม่ที่กาได้บัตรเดียว  ยิ่งถ้าพิจารณาหลักการที่ว่า พรรคเลือกคน ประชาชนเลือกพรรค ประกอบกับการให้เหตุผลของ กรธ.ที่อ้างว่าลดการกาบัตรเหลือบัตรเดียวโดยไม่ต้องกาเลือกพรรคเป็นบัตรที่สองเช่นที่เคยทำมานั้น จะทำให้พรรคคัดสรรผู้สมัครให้ดีก่อนส่งลงเลือกตั้ง ยิ่งตอกย้ำความสำคัญของความเป็นพรรคที่ควรสร้างระบบที่ง่ายต่อการเลือกของประชาชนว่าจะสนับสนุนพรรคและตัวผู้สมัครจากพรรคใด โดยใช้เบอร์เดียวกันทั้งประเทศ ”  นายนพดล กล่าว

นายนพดล กล่าวว่า ดังนั้นการที่บอกว่าให้ผู้สมัครแต่ละเขตจับสลากเบอร์ของตนเพื่อให้ผู้สมัครได้แสดงความสามารถ และไม่ต้องพึ่งเบอร์พรรคนั้น เห็นว่า ขณะนี้มีระบบไพรมารีโหวตที่ให้สมาชิกพรรคช่วยคัดสรรผู้สมัครเบื้องต้น และพรรคตัดสินเลือกผู้สมัคร ซึ่งคงต้องมีความรู้ความสามารถจึงจะได้รับเลือก  จึงหวังว่า กรธ.จะเปิดใจรับฟังฝ่ายต่าง ๆ ในการร่างกฎหมายเพื่อให้การเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ไม่สับสนและควรเปลี่ยนแปลงวิธีการเฉพาะที่ทำให้การเลือกตั้งดีขึ้น .-สำนักข่าวไทย                


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

ตร.เชื่อชิงทอง 113 บาท ก่อเหตุคนเดียว วางแผนมาอย่างดี

เหตุคนร้ายชิงทองในร้านทองกลางห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้ทองรูปพรรณ 113 บาท มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ตำรวจเชื่อคนร้ายก่อเหตุเพียงคนเดียว และวางแผนมาเป็นอย่างดี

บึ้มสนั่นโรงพัก! มือมืดซุกระเบิดใต้รถกระบะของตำรวจ

2 เหตุไม่สงบ จ.นราธิวาส คนร้ายซุกระเบิดรถเจ้าหน้าที่ก่อนจุดบึ้ม ขณะจอดที่ สภ.ศรีสาคร ส่วนที่ อ.ยี่งอ ไฟไหม้รถปลัดอำเภอ เร่งตรวจสอบเอี่ยวป่วนใต้หรือไม่

ระงับจ่ายไฟ

“ภูมิธรรม” สั่งระงับจ่ายไฟฟ้าชายแดน ยันไม่ต้องเข้า ครม.

“ภูมิธรรม” ใช้อำนาจรองนายกฯ ความมั่นคง สั่งระงับจ่ายไฟฟ้าชายแดน ยันทำได้ทันทีไม่ต้องเข้า ครม. พร้อมเปิดระเบียบ กฟภ.สั่งตัดไฟฟ้าเองได้ หากพบกระทบความมั่นคง ลั่นหากหน่วยไหนไม่ทำตาม จะดึงตัวมาช่วยราชการ ชี้ไม่ใช่แม่พระใจดี ที่จะนิ่งเฉยได้ หากเมียนมาไม่ดำเนินการภายใน ก็ต้องรับผลกระทบ