ศาลชี้ “ธวัชชัย อนุกูล” ถูกทำให้ตาย

กรุงเทพฯ 5 ส.ค.-ศาลอาญา ชี้ชัดการเสียชีวิตของอดีตเจ้าหน้าที่ที่ดินพังงาถูกทำให้เสียชีวิต ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาตัวผู้ก่อเหตุ โดยการนัดฟังคำสั่งของอัยการที่ยื่น คำร้องขอไต่สวนการชันสูตรพลิกศพ นายธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าหน้าที่ที่ดินพังงา ผู้ต้องหาคดีออกเอกสารสิทธิ์ทับซ้อน ที่เสียชีวิตในห้องควบคุมดีเอสไอเมื่อ 31 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา 


โดยอัยการได้ขอให้ศาลไต่สวนเพื่อชี้ว่า “ผู้ตายเป็นใคร เสียชีวิตด้วยสาเหตุใด และใครเป็นผู้กระทำ” ซึ่งเมื่อวานที่ผ่านมาศาลมีคำสั่งว่านายธวัชชัย เสียชีวิต  เพราะถูกของแข็งกระแทกตับ เลือดออกในช่องท้อง รวมถึงขาดอากาศหายใจจากการผูกคอทำให้ตาย โดยยังไม่ทราบว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำ ระหว่างอยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติตามหน้าที่ พร้อมสั่งให้ส่งสำนวนการไต่สวนให้อัยการดำเนินการต่อไป


  

ด้านนายชัยณรงค์ อนุกูล น้องชายนายธวัชชัย เปิดเผยว่าศาลได้มีคำสั่งแล้วว่าผู้ตายคือนายธวัชชัย ซึ่งเสียชีวิตเพราะมีบุคคลอื่นทำให้ตาย ดังนั้นจึงไม่ใช่การฆ่าตัวตาย โดยตนกำลังหารือกับทนายความที่จะติดตามการดำเนินการพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ต่อไปถึงการหาตัวผู้ที่ทำให้พี่ชายเสียชีวิต ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ทำรายงานสรุปการเสียชีวิตไว้ และศาลก็รับฟังว่ามีบุคคลอื่นทำให้ตาย


ขณะที่พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ได้ออกแถลงการณ์ ระบุจะศึกษารายละเอียดในคำสั่งของศาล และพร้อมให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุในการแสวงหาข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานเพื่อทำความจริงให้ปรากฎต่อสังคม พ.ต.อ.มานะ เผาะช่วยผู้กำกับการ สน.ทุ่งสองห้อง  กล่าวว่า หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะต้องรอคำพิพากษาพร้อมสำนวนเดิมซึ่งพนักงานอัยการ กอง  4  จะเป็นผู้นำกลับมามอบให้พนักงานสอบสวน เพื่อตั้งสำนวนการสอบสวนเป็นคดีอาญา โดยจะพิจารณาว่าถูกทำให้ตายด้วยสาเหตุใด ซึ่งความเป็นไปได้มีทั้งถูกทำให้ตายโดยเจตนา หรือการฆาตกรรม  ถูกทำให้ตายโดยไม่เจตนาหรือประมาท หรือเป็นความบกพร่องของผู้ใด ซึ่งกรณีนี้ชัดเจนว่าถูกทำให้ตายระหว่างถูกควบคุมของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ จึงต้องว่าไปตามพยานหลักฐาน ยืนยันพนักงานสอบสวนไม่หนักใจ 

อย่างไรก็ตามญาติของผู้ตายสามารถมาร้องทุกข์ ที่สน.ทุ่งสองห้องให้ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง หรือมอบอำนาจให้ทนายความยื่นฟ้องต่อศาลโดยตรง จากนั้นพนักงานสอบสวนจะพิจารณาว่าญาติของผู้ตายร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้ใด หากเป็นเจ้าพนักงานกระทำความผิดขณะปฏิบัติหน้าที่ สำนวนการสอบสวนก็จะอยู่ในอำนาจของพนักงาน ป.ป.ช. หรือ ป.ป.ท. ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าพนักงานนั้นดำรงตำแหน่งในระดับใด แต่หากญาติไม่มาร้องทุกข์พนักงานสอบสวน ก็จะพิจารณาดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งคดีนี้ถือเป็นคดีอาญาไม่สามารถยอมความได้ เบื้องต้นอาจใช้พยานหลักฐานเดิมในสำนวนการชันสูตรศพซึ่ง ก็คือความเห็นแพทย์ที่ระบุว่าผู้ตายเสียชีวิตจากภาวะตับแตกร่วมกับการขาดอากาศหายใจ ประกอบหลักฐานในสำนวนคดีอาญาที่ต้องสอบผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

แผ่นปูนหล่นจากรถบรรทุก ร่วงทับเก๋งพังยับ คนขับเจ็บ

แผ่นปูนขนาดใหญ่ร่วงจากรถบรรทุก ทับเก๋งวิ่งผ่าน พังยับทั้งคัน บริเวณปากซอยลาดกระบัง 54 โชคดีคนขับบาดเจ็บเล็กน้อย

ฝนถล่ม กทม.คืนที่ผ่านมา เขตลาดพร้าวหนักสุด 130 มม.

กรมอุตุนิยมวิทยาเผย พายุฤดูร้อนยังส่งผลกระทบถึง 12 พ.ค. นี้ คืนที่ผ่านมา หลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ มีฝนตกหนักเกินศักยภาพการระบายน้ำ ทำให้เกิดน้ำท่วมขัง ในระยะเปลี่ยนถ่ายฤดูกาลยังต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง

“อิทธิพร” เชิญชวนเลือกตั้งเทศบาล คาดมีผู้ใช้สิทธิทั่วประเทศ ร้อยละ 70

ประธาน กกต. ตรวจความพร้อมเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีนครหัวหิน เชิญชวนประชาชนออกมาลงคะแนน คาดมีผู้ใช้สิทธิทั่วประเทศ ร้อยละ 70

เตือนไทยตอนบนรับมือ “พายุฤดูร้อน” ฝนถล่ม-ลมแรง

กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนรับมือ “พายุฤดูร้อน” ฝนถล่ม ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและตกหนักบางแห่ง