ลุงพล-ป้าแต๋น ขึ้นศาลฯ ตรวจพยานหลักฐานคดีน้องชมพู่

มุกดาหาร 23 พ.ย.- “ลุงพล ป้าแต๋น” ประจันหน้า “แม่-พ่อ น้องชมพู่” ขึ้นศาลจังหวัดมุกดาหารตรวจพยานหลักฐานคดีน้องชมพู่ เผยขณะนี้มีพยานฝ่ายโจทก์ 67 ปาก


ศาลจังหวัดมุกดาหารนัดพร้อม ตรวจพยานหลักฐานในคดีน้องชมพู่ ที่อัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล อายุ 45 ปี จำเลยที่ 1 ในข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และ น.ส.สมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น อายุ 41 ปี จำเลยที่ 2 ในข้อหาร่วมกันกระทำการใดๆ แก่ศพ หรือสภาพ แวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งช่วงเช้าทั้งคู่เดินทางมาพร้อมกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ

ส่วนทางด้านผู้เสียหายคือ นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา นายอนามัย วงศ์ศรีชา แม่และพ่อน้องชมพู่ เดินทางมาพร้อมกับนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม 


นายอัจฉริยะ เผยว่าวันนี้ศาลได้นัดพร้อมตรวจพยานหลักฐาน โดยที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะรู้ว่าหลักฐานพยานของแต่ละฝ่ายมีอะไรบ้าง เพื่อที่จะนำไปต่อสู้แก้ต่างในขั้นตอนต่อไป ซึ่งวันนี้หลักๆ แล้วจะเป็นหน้าที่ของอัยการมุกดาหาร ซึ่งเป็นโจทก์ในคดีนี้ ส่วนแม่น้องชมพู่ โจทก์ร่วมก็จะคอยเติมข้อมูลที่ขาดหรือไม่ครบถ้วน จากการที่ได้หารือกับอัยการทราบว่า มีพยานทั้งหมด 67 ปาก โดยเป็นพยานของทางฝ่ายอัยการ 62 ปากส่วนของเรามี 5 ปากที่มาเสริมให้ครบถ้วนสมบูรณ์ โดยได้แบ่งพยานออกเป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่มครอบครัว ทั้งครอบครัวผู้ต้องหา ครอบครัวผู้เสียหาย กลุ่มที่สองคือชาวบ้านทั่วไป กลุ่มที่สามเป็นนักวิชาการ นักนิติวิทยาศาสตร์ และกลุ่มที่สี่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พนักงานสอบสวน แย้มมีหลักฐานสำคัญแต่ยังไม่เปิดเผย

โดยเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2564 พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายไชย์พล วิภา เป็นจำเลยที่ 1 ในข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกินเก้าปีไว้ ณ ที่ใด เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแลเป็นเหตุให้ผู้ถูกทอดทิ้งถึงแก่ความตาย และร่วมกระทำการใดๆ แก่ศพ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป ส่วน น.ส.สมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น เป็นจำเลยที่ 2 ในข้อหาร่วมกัน กระทำการใดๆ แก่ศพ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก