ทำเนียบฯ 2 ส.ค. – รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจปลื้มต่างชาติทยอยเดินทางเข้าหารือ ร่วมมือการค้าลงทุนกับไทย
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจ หารือร่วมกับนางจูลี่ บิชอป (Julie Bishop) รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศและการค้า ประเทศออสเตรเลีย และรองหัวหน้าพรรคลิบเบอรอล พรรคการเมืองใหญ่ของออสเตรเลียและยังมีโอกาสได้เป็นหัวหน้าพรรคในอนาคต ยอมรับว่าในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาไทย-ออสเตรเลียไม่ได้หารือร่วมกันมากนัก จากนี้ไปออสเตรเลียต้องการหารือร่วมกับไทยทั้งด้านการค้าและการลงทุนมากขึ้น โดยพร้อมทบทวนเขตการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย เพื่อลงรายละเอียดแต่ละสาขาเพิ่ม เช่น การพัฒนาด้านการศึกษา จึงเสนอให้รัฐบาลออสเตรเลียรื้อฟื้นการมอบทุนการศึกษานักศึกษาไทยไปเรียนออสเตรเลีย เพื่อพัฒนาบุคลากรรองรับไทยแลนด์ 4.0
นายสมคิด กล่าวว่า ออสเตรเลียมีศักยภาพด้านเกษตรค่อนข้างมาก หากมาร่วมกับไทยพัฒนาด้านเทคโนโลยีการเกษตรจะช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมกลุ่มเป้าหมายอย่างมาก จึงต้องเจรจาเพิ่มกับออสเตรเลียอีกหลายครั้งจากนี้ไป นอกจากนี้ ยังหารือเกี่ยวกับการรวมกลุ่มประเทศ TPP เพื่อให้ผ่อนปรนเงื่อนไขสำหรับประเทศด้อยพัฒนา กำลังพัฒนา รวมทั้งไทยสนใจเข้าร่วมในกลุ่มประเทศ RCEP เนื่องจากไทยเป็นข้อต่อสำคัญระหว่างกลุ่มประเทศเอเชีย-แปซิฟิกกับประเทศแถบเอเชีย ต่างชาติจึงมองเห็นว่าไทยเป็นจุดเชื่อมสำคัญในการเป็นศูนย์กลางการค้าและการลงทุน ช่วงนี้ต่างประเทศจึงทยอยเข้ามาหารือจำนวนมาก เพื่อต้องการลงทุนในระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี)
ปัจจุบันออสเตรเลียเป็นคู่ค้าอันดับ 8 ของไทย ขณะที่ไทยเป็นคู่ค้าอันดับ 8 ของออสเตรเลีย การค้าทั้ง 2ประเทศเพิ่มขึ้น 3 เท่า หลังจากลงนามเอฟทีเอร่วมกันก่อนปี 2547 โดยปี 2559 มูลค่าการค้าร่วมกัน 13,739 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทยเกินดุลการค้า 6,869 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตั้งแต่ต้นปี 2560 นักธุรกิจด้านปศุสัตว์ของออสเตรเลีย อุตสาหกรรมเกษตร เดินทางมาขอรับส่งเสริมการลงทุนด้านเกษตรทั้งโคเนื้อ โคนม และอุตสาหกรรมด้านอื่นอีกหลายสาขา ทั้งเหมืองแร่ การสำรวจปิโตรเลียม เครื่องดื่ม
ส่วนกำหนดหารือกับนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ สัปดาห์หน้า เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการค้าการลงทุน ด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง ก่อนที่นายกรัฐมนตรีของไทยจะเดินทางไปเยือนสหรัฐและหากเหตุการณ์ตัดสินคดีจำนำข้าวช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ผ่านไปด้วยดี เมื่อการเมืองสงบความเชื่อมั่นต่างชาติจะดีขึ้นอย่างมาก.- สำนักข่าวไทย